ร้องปปช.ตรวจสอบ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์A ทั้งของอาคารและ หน่วยงานศาล พร้อมถามนโยบาย “โควิดขึ้นสมอง”ส่งผลกระทบปชช.โดยควรหรือไม่ 

วีคลี่นิวส์ได้รับการสอบถามจากประชาชนผู้ติดต่อกิจธุระที่อาคารหน่วยราชการ หลักสี่“ราชบุรีดิเรกฤทธิ์ A “ ว่า เป็นเวลาหลายปีที่หน่วยงานดูแลอาคารนี้นำเครื่องเอกฃเรย์ขนาดใหญ่ มูลค่าหลายล้านบาทมาตั้งวางไว้ตามจุดประตูทางเข้า ฃึ่งตนสงสัยว่า ไม่ว่าตนจะถือกระเป๋าใบใหญ่ ก็ไม่เคยต้องเอกฃเรย์กระเป๋าเหมือนอย่างที่สนามบินใช้งานเลยสักครั้ง 

นอกจากนี้ มีการว่าจ้างรปภ.จากบริษัทเอกชนจำนวนมาก มาดูแลผู้เข้า – ออก ในอาคาร หากเป็นปชช.ทั่วไปจะถูกบังคับให้ยืนตากแดดกรอกเอกสาร เพื่อสอบถามว่าสามวันที่ผ่านมาได้ตรวจatk มาหรือไม่ ถ้าไม่ ต้องกรอกเอกสาร ดังกล่าวมิฉะนั้นจะไม่ได้เข้าตึก

แต่ประหลาดมากระหว่างตนยืนกรอกนั้น เห็นคนถือเสื้อครุยเข้าได้โดยไม่ต้องกรอกเอกสาร 

เมื่อสอบถามรปภ.บอกว่าทนายเขาตรวจatkแล้วทั้งนั้น ไม่รู้รภปรู้ได้อย่างไร

นอกจากนี้ พอเดินผ่านเข้าตึกได้แล้วจะขึ้นไปชั้นสอง ชั้นสาม ที่มีหน่วยงานศาลตั้งอยู่ตนว่าโรคกลัวโควิดขึ้นสมองทำให้สมองนิ่มกันไปหมด ต้องถูกบังคับให้ต้องสแกนQR code กรอกประวัติส่วนตัว อีกยาว 

กรอกเสร็จแล้วขึ้นถึงชั้นศาล ต้องถูกสแกนบอดี้และตรวจบัตรประชาชน อีกครั้ง  

ตนสงสัยมากว่า หน่วยงานศาลอื่นๆก็ไม่เห็นมายืนดาหน้าของรปภ.เพื่อคุมคนเข้าศาลเท่าที่นี้ 

หรือตึกอาคารA นี้ เป็นโรคกลัวโควิดขึ้นสมอง ตนว่าน่าที่จะมีเหตุผลที่”ฉลาด”มากกว่านี้  เพราะสิ่งที่ป้องกันที่กล่าวนี้มันไม่ได้ช่วยกรองคนที่เข้าตึกได้ เพราะการวัดอุณหภูมิ ที่ไข้ไม่ขึ้น แต่เป็นพาหะ ตึกนี้ก็ไม่มีทางรู้ได้ 

แต่ประโยชน์ในการนี้คือ การว่าจ้างรปภจำนวนมากกว่าสิบคนมาทำหน้าที่โดยต้องจ่ายงบประมาณจำนวนมาก อีกทั้งค่าเครื่องสแกนบอดี้ก็ดี เครื่องเอกฃเรย์ ก็ดี น่าที่ปปช.ควรมาตรวจสอบบ้างว่า ใช้เงินคุ้มงบประมาณหรือไม่