บ่นอู้กรมบังคับคดีทำงานช้า ขาดประสิทธิภาพในการทำงาน ทั้งที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากปชชได้ปีหนึ่งหลายแสนล้าน

ผู้ไปติดต่องานสำนักงานบังคับคดีอย่างพนักงานสถาบันการเงิน และ ปชชทั่วไป ต่างบ่นอู้ว่าสำนักงานบังคับคดีหลายแห่งทำงานช้า ปล่อยให้คอยกันทีทั้งวัน โดยยกตัวอย่างสาขาฉะเชิงเทรา ว่าทำงานช้ามากๆขณะที่ควรเอาระบบของสาขาแห่งหนึ่งของจังหวัดปทุมธานี ฃึ่งทำงานเร็วและเป็นระบบมาใช้ดูเป็นตัวอย่าง

  •   อธิบดีกรมบังคับคดี

เมื่อวานนี้เกิดการร้องเรียนไปยังอธิบดีกรมบังคับคดีว่าให้ช่วยตรวจสอบระบบการทำงานของสำนักงานบังคับคดีจันทบุรี ฃึ่งมีความล่าช้าเป็นอย่างมากว่าโจทก์มายื่นคำร้องขอถอนการยึดใช้เวลายื่นเรื่องตั้งแต่9.31 กว่าจะได้รับเรื่องเพื่อนำไปยื่นต่อที่ชั้นสองในเวลา10.34 น. โดยมีจนท.ทำงานอยู่คนเดียว แม้ว่าจะไ่ม่มีผู้มาติดต่อมาแออัดให้เห็นแต่ผู้มาติดต่อฝากเรื่องไว้ เพราะคงรู้ว่าการทำงานมีความล่าช้าจึงใช้วิธีทิ้งเรื่องไว้แล้วกลับมาทีหลัง 

ขณะที่ผู้ติดต่อฝ่ายจำเลยแจ้งว่าได้ยื่นเรื่องคำร้องขอให้คิดค่าถอนการยึดมาแล้วล่วงหน้าหลายวันแต่เมื่อขึ้นไปติดต่อได้รับแจ้งจากพนง.นิติกร ว่า ไม่สามารถทำล่วงหน้าให้ได้ เพราะเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องมาดำเนินการ

พนง.นิติกร1จึงส่งเรื่องให้ฝ่ายการเงินคิดค่าธรรมเนียมถอนการยึด เนื่องจากรู้ว่าโจทก์กำลังยื่นคำร้องอยู่ที่ชั้น1 และขณะที่พนงฝ่ายการเงินกำลังคิดค่าธรรมเนียม อยู่นั้น ได้ถูกพนงฝ่ายบชบอกให้ทิ้งงานไว้ก่อนเพื่อให้ไปเข้าประชุมคณะกรรมการประเมินทรัพย์ ปล่อยให้ผู้มาติดต่อต้องคอยจนประชุมเสร็จเกือบ1ชม. 

ส่วนพนง.นิติกร1  ก็นั่งเปิดพลิกแฟ้มเรื่องไปมาอยู่นานเพื่อจะทำหนังสือถึงที่ดินให้ถอนการยึด 

สรุปใช้เวลาดำเนินการที่ผู้ไปติดต่อฃึ่งมีรายเดียวในสำนักงานบังคับคดีจันทบุรี  ต้องใช้เวลาติดต่อทำเรื่องขอถอนการยึด ตั้งแต่ 9.00 ไปถึง12.15น.

โดยระหว่างเวลา11.00 ผู้ไปติดต่อได้โทรสอบถามไปที่หน้าห้องอธิบดีว่า สำนักงานแห่งนี้ขาดตัวผู้อำนวยการมาตั้งแต่มิ.ยแล้ว ป่านนี้ยังไม่มีผอ.มานั่งทำงานประกอบกับพนง.มีน้อยมากทำให้ทำงานไม่เพียงพอหรือไม่ เนื่องจากตนมาใช้บริการแค่เรื่องถอนการยึดใช้เวลานานมาก

ผู้รับเรื่องของอธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวว่า จะสอบถามเรื่องราวมาที่สำนักงานบังคับคดีจันทบุรี แต่ขอบอกว่าการสอบถามไปนี้จะไม่ได้ช่วยให้ทำเรื่องได้เร็วขึ้น แต่จะสอบถามถึงสาเหตุว่าเกิดเหตุไรขึ้น

ก็ปรากฎขณะนั้นพนงการเงินคิดค่าธรรมเนียมเสร็จพอดี เมื่อเวลา11.25 แต่ยังใช้เวลาให้นิติกรนั่งพลิกแฟ้มดูเรื่องเพื่อออกหนังสือถึงสำนักงานที่ดินไปอีกนาน นับจากนั้น จนถึงเวลา12.05 รักษาการผอ.จึงถามว่ายังไม่เสร็จอีกหรือ 

ผู้ติดต่อราชการรายนี้เล่าต่อว่า เป็นการทำงานที่ล่าช้ามากทั้งที่มีตนรายเดียว เพราะทั้งสนง.มีพนง.ที่เป็นข้าราชการและพนงราชการเพียงหกคนประจำตำแหน่งของงานที่รับผิดชอบเพียงคนเดียว อาจทำงานไม่พอรับมือกับงานที่เข้ามา

แต่อย่างไรก็ตามตนนั่งดูการทำงานเห็นมีตนมาติดต่ออยู่คนเดียว ส่วนรายอื่นๆสองสามรายก็แค่มาตามงานที่ส่งเรื่องไว้ก่อนแล้ว

ตนเห็นว่า พนงนิติกรควรจำเป็นต้องหาคนที่ตั้งใจทำงานและมีประสิทธิภาพ มีความกระตือรือร้นมีความรู้ความสามารถ มาใช้งาน เพราะเป็นหัวใจในการทำงานของสำนักงานบังคับคดี เป็นส่วนใหญ่ หากได้นิติกรที่ไม่กระตือรือร้น ขาดประสิทธิภาพ งานจะล่าช้า ที่สำคัญตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งของการทุจริตได้ง่าย หลายรูปแบบ จึงจำต้องคัดสรรบุคลากรอย่างมาก 

ส่วนเรื่องตำแหน่งผู้อำนวยการว่างลงนานถึงหกเดือนนั้น ได้รับแจ้งว่า เนื่องจากกรมบังคับคดีมีข้าราชการเกษียณปีที่ผ่านมามากกว่า34คน ทำให้กระทรวงต้องมีการสอบรับและก.พ ต้องแจ้งตำแหน่งรองรับมาให้จึงทำให้การตั้งผอ.มีความล่าช้า 

โดยตำแหน่งรองอธิบดีก็ว่างถึงสองตำแหน่งก็เพิ่งได้ตัวมาเมื่อเร็วๆนี้

อย่างไรก็ตามผู้มาใช้บริการสำนักงานบังคับคดีกล่าวว่า  กรมบังคับคดีรับเงินค่าธรรมเนียมจากผู้มาติดต่อเป็นจำนวนปีหนึ่งหลายแสนล้านบาท กรมบังคับคดีได้รับส่วนแบ่งจากการทำงานนี้ที่ผ่านมาถึง 800 ล้าน ก็น่าจะปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว สะอาด ให้สมกับเงินที่เรียกเก็บจากผู้มาติดต่อ ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้มาติดต่อต้องมารับกรรมในเรื่องการบริหารของกรมบังคับคดีโดยไม่ใส่ใจในคุณภาพของการทำงานและสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับผู้มาติดต่อ 

ไม่ใช่คิดแต่จะ”เอา” อย่างเดียว