• พิษนโยบายคุมเข้มอสังหาริมทรัพย์ออกฤทธิ์ ธนาคารกรุงเทพ ภาค2 ระงับปล่อยสินเชื่อโครงการอ้างเศรษฐกิจไปไม่รอด 

หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทยออกระเบียบคุมเข้มธนาคารปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ แก่ลูกค้ารายย่อย เมื่อเร็วๆนี้ได้ลามไปถึงการปล่อยสินเชื่อโครงการของนักลงทุน ทำให้นักลงทุนต่างหวาดผวาธุรกิจของปทในปี62 จะย่ำแย่หรือจะพลิกผัน

โดยนักลงทุนรายหนึ่งเล่าให้ “วีคลี่นิวส์”ฟังว่า ธนาคารกรุงเทพ ภาค2 ผู้ควบคุมดูแลการปล่อยสินเชื่อธุรกิจในเขตภาคตะวันออก ได้ปฎิเสธการให้สินเชื่อแก่นักลงทุนที่พัฒนาที่ดินขายในย่านนี้ โดยให้เหตุผลว่า สภาพเศรษฐกิจไม่ดี กำลังฃื้อไม่มีความสามารถ และธนาคารแห่งประเทศไทยก็คุมเข้มขอความร่วมมือมายังธนาคาร ทำให้ธนาคารไม่สามารถที่จะปล่อยกู้ให้กับโครงการได้ โดยเฉพาะโครงการที่อยู่ในทำเลที่ไม่ใช่ตัวเมืองหรือทำเลเด่นดัง  เพราะกำลังฃื้อในเมืองยังไม่สามารถขายออกได้ในเวลานี้ เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี 

วีคลี่นิวส์ ได้สอบถามไปยังนักธุรกิจหลายสาขาต่างพูดตรงกันว่าเศรษฐกิจไม่ดีจริงแต่สาเหตุเกิดจากอะไร การที่ธนาคารแห่งประเทศไทยมาออกมาตราการคุมเข้มเรื่องการปล่อยสินเชื่อบ้านหลังที่สองสามของผู้ลงทุนด้วยวิธีการขีดเส้นจำกัด ยิ่งทำให้เศรษฐกิจไปไม่รอด เพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่สามารถขยายไปยังธุรกิจส่วนอื่นๆได้จำนวนมาก ทั้งในเรื่องการฃื้อการขายอุปกรณ์ก่อสร้าง เรื่องแรงงาน เรื่องภาษี 

เมื่อธนาคารพาณิชย์มาใช้เหตุผลเรื่องเศรษฐกิจในการงดปล่อยสินเชื่อยิ่งทำให้ธุรกิจของไทยยิ่งวิกฤติหนักขึ้น

คล้ายฟองสบู่แตกแน่นอน

ดังนั้นในปีหน้าหากไม่มีการเปลื่ยนแปลงรัฐบาลให้มาจากการเลือกตั้งและได้รัฐบาลที่ไม่มีความสามารถเพียงพอจะมาทำให้ธุรกิจดีขึ้น ไม่ต้องเป็นหมอดูก็คิดกันเองได้ว่าปีหน้าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร

เมื่อกลไกทางการตลาดถูกยื้อหยุดให้ชะงัก นักลงทุนถูกปฎิเสธการให้เงินลงทุน แต่คนต้องกินต้องใช้ การจ้างงานถูกเลิกจ้าง จะเกิดอะไรขึ้นในปทไทย 

รัฐบาลน่าจะมองวิธีการแก้ไขปัญหาให้ดีกว่าที่ผ่านมา ลำพังให้เงินคนยากจนนั้นไม่ใช่การช่วยเศรษฐกิจของปทที่ถูกต้อง 

ตนคิดว่าการเลือกตั้งจะทำให้เงินสะพัดขึ้นแต่เศรษฐกิจจะดีได้อย่างไรเมื่อ๔นาคารแห่งปทไทยก็แก้ไม่ถูกที่คัน ฃ้ำยังทำให้ธุรกิจดิ่งตัวต่ำลงไปอีก โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่คงมานานไม่เปลื่ยนแปลงนั้น ช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้นหรือไม่ น่าจะลองคิดใหม่