ปุญญัง สุขัง ชีวิสังขยัมหิ บุญกุศลที่สาธุชนพุทธบริษัททั้งหลายได้สร้างสมให้บริบูรณ์แล้ว ย่อมนำความสุขมาให้เมื่อสิ้นชีวิต
. อายุของมนุษย์นี้น้อยนักหนา ไม่เพียงพอแก่ความต้องการ คิดประกอบการงานไม่ทันจะสำเร็จได้ทุกอย่าง ก็จะถึงมรณะละวางอารมณ์เหล่านั้นไป
ผู้มีปัญญาควรจะต้องตัดความนิยมในชีวิตนั้นเสีย อย่าสำคัญว่ามากแล้วมัวเมา เลินเล่อลุ่มหลงระเริงใจ
ควรแต่จะรีบเร่งขวนขวายบำเพ็ญสิ่งที่เป็นบุญกุศลสุจริตครบไตรทวารไว้เท่านั้นให้เร็ว
ทำให้รู้สึกประหนึ่งว่า บุคคลถูกเพลิงไหม้ศีรษะรีบร้อนดับเพลิงให้สงบฉะนั้น
ควรทำความเพียรปราบปรามกำจัดกิเลสให้เหือดหาย
ให้บุญกุศลเจริญขึ้นในตนภายในวันนี้แหละให้จงได้
เพราะใคร ๆ คนไหนเล่าจะอาจรู้ว่าความตายจะมาถึงในวันพรุ่งนี้ เดือนหน้า ปีหน้า
เพราะมฤตยู คือความตายที่มีเสนาใหญ่ คือ ขุนชรา ขุนพยาธิ พระยามรณะ และปกิณกทุกข์ทั้งหลาย
ภัยอันเป็นที่ขยาดหวาดกลัวของหมู่มนุษย์นี้ เหลือวิสัยและความสามารถที่ใคร ๆ แม้มีอำนาจยิ่งใหญ่จะต้านทานสู้รบ ผลักไสด้วยอุบายอันหนึ่งอันใดได้เลย
ปุญญัง สุขัง ชีวิสังขยัมหิ
บุญกุศลที่สาธุชนพุทธบริษัททั้งหลายได้สร้างสมให้บริบูรณ์แล้ว ย่อมนำความสุขมาให้เมื่อสิ้นชีวิต ดังนี้
จากหนังสือ อนาลโยวาท หลวงปู่ขาว อนาลโย หน้าที่ ๓๙๙
สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
๖๑.๐๗.๑๘
ใส่ความเห็น