พระพุทธเจ้าให้บำเพ็ญศีล สมาธิ ปัญญา เป็นหลักของพระพุทธศาสนา
พระพุทธเจ้าให้บำเพ็ญศีล สมาธิ ปัญญา เป็นหลักของพระพุทธศาสนา
บำเพ็ญศีลด้วยการรักษากาย รักษาวาจา รักษาใจของเราให้มันสงบ ให้เรียบร้อย
เรารักษากาย สำรวมใจ กาย วาจา ของเราให้เรียบร้อย
เราไม่ทำโทษน้อยใหญ่ทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจแล้ว เกิดมาอีกเราก็ไม่เป็นคนพิกลพิการ เกิดมาก็กายบริบูรณ์ วาจาก็บริบูรณ์ ใจก็บริบูรณ์
เราต้องการอย่างนี้
เรารักษาศีลไม่ใช่อื่น เรารักษากายวาจาใจเท่านี้ รักษาเพื่อให้ตัวเราได้พ้นจากตกทุกข์ได้ยาก ให้ตัวเราไม่วิกลวิการ ใจไม่วิกลวิการ รักษาตรงนี้
นี่แหละเป็นหนทางที่จะออกจากทุกข์ได้ ให้พากันทำตรงนี้
สัมมาสมาธิ ทำจิตให้เที่ยง อย่าให้มันไปก่อภพก่อชาติก่อกรรมก่อเวรอะไร
ใจมันสงบเพราะเป็นสมาธิ ใจตั้งมั่น ตั้งเที่ยง ตั้งตรง ใจไม่ง่อนแง่นคลอนแคลนไปในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส สัมผัสทั้งหลายเหล่านั้น
เวลามันจะไปนั้น มันไปเที่ยวก่อภพก่อชาติน้อยใหญ่
ดังนั้นจึงให้เข้าวัดดู เราเข้าสมาธิ เราตั้งให้แน่ว มันจะออกไปข้างหน้าเราก็รู้ จะไปข้างหลังเราก็รู้ จะออกไปทางซ้ายทางขวา ทางล่างทางบน จิตของเราก็รู้ตามไป นี่คือหัดทำสมาธิเพื่อทำจิตของเราให้ตั้งมั่น
ที่เราเป็นทุกข์ เพราะมันไม่ตั้งมั่น มันเป็นอนิจจัง มันไม่เที่ยง
สิ่งไหนเป็นอนิจจัง-ไม่เที่ยง สิ่งนั้นก็เป็นทุกข์ สิ่งไหนเป็นทุกข์ สิ่งนั้นก็ไม่ใช่ตัวตน
การทำใจให้ตั้งมั่นไม่หวั่นไหวเรียกว่า สมาธิ
เราจะหาอะไรทำ ก็ต้องหาของที่เที่ยงที่แท้ ไม่เอาของแปรผันยักย้าย จึงต้องให้ทำสมาธิ มันจึงจะรู้
เมื่อรู้แล้วก็เกิดปัญญา ไม่ใช่อื่นไกล คือความรอบรู้ในกองสังขารการปรุงแต่ง
จึงต้องให้เข้าวัดฟังธรรม จะได้รู้ว่าการปรุงแต่งอะไรเป็นกุศล
เป็นกุศลเราเบิกบาน เป็นพุทโธมีความสว่างไสว จิตไม่เศร้าหมอง จิตไม่รำคาญ
จิตพุทโธ จิตเบิกบาน จิตพุทโธ จิตรู้ นี่แหละให้พากันรู้จัก
จากหนังสือ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร โครงการหนังสือบูรพาจารย์ เล่มที่ ๑๑ หน้าที่ ๖๔๔
สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
๖๑.๐๖.๑๓
ใส่ความเห็น