ธปท.เตือนสถาบันการเงินทุกประเภทอย่าเรียกเก็บค่าดอกเบี้ยและค่าปรับเกินเลยจากประกาศ

ธนาคารแห่งปท.ไทยออกหนังสือถึงสถาบันการเงิน บริษัทที่ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่มิใช่สถาบันการเงินและบริษัทประกอบสินเชื่อส่วนบุคคลที่มิไช่สถาบันการเงิน ให้ปฎิบัติตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศเรื่องการกำหนดอัตราดอกเบี้ยค่าธรรมเนียม ค่าบริการต่างๆ และเบี้ยปรับ อย่างเป็นธรรม ไม่เอาเปรียบลูกค้า

แต่ปรากฎว่ามีผู้ให้บริการบางแห่งเรียกเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวไม่สอดคล้องกับเจตนารมย์ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศไว้เช่นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการจัดการสินเชื่อ front end free ของสินเชื่อเพื่อการบริโภคและอุปโภคแยกต่างหากจากอัตราดอกเบี้ยและเรียกเก็บอัตราค่าติดตามทวงถามโดยไม่ได้มีการทวงถามจริง เป็นต้น

ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงขอเน้นย้ำผู้ให้บริการได้ปฎิบัติตามเจตนารมย์ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ได้ประกาศไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการทางการเงินโดยเคร่งครัด

อ่านรายละเอียดที่ https://www.bot.or.th/Thai/FIPCS/Documents/FPG/2561/ThaiPDF/25610058.pdf

ด้านปชช.ข้องใจสถาบันการเงินของรัฐ เช่น ธนาคารออมสิน เรียกเก็บเงินค่าวิเคราะห์โครงการขอสินเชื่อ2%ของวงเงินกู้ ถือเป็นการเรียกเก็บใต้โต๊ะหรือไม่ และ ถือเป็นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่ควรหรือไม่ควรอย่างไร เนื่องจากสถาบันการเงินควรจะลงทุนวิเคราะห์เองอยู่แล้วเพื่อพิจารณาหวังดอกเบี้ยจากผู้ใช้บริการทางการเงิน ไม่ใช่ผลักภาระมาให้ปชช.ต้องเป็นผู้จ่าย ในจำนวนที่มากเท่านี้

ธนาคารแห่งปท.ไทยปล่อยให้สถาบันการเงินเอาเปรียบปชช.มานานจะเรียกเก็บอย่างไรก็ได้ และ ธนาคารแห่งปท.ไทยทำได้แค่เตือน และปรับ แต่ไม่สามารถเอาผิดอย่างอื่นได้ ทำให้สถาบันการเงินต่างโขกเรียกค่าธรรมเนียม ค่าบริการ ค่าดอกเบี้ยและค่าเบี้ยปรับ จากปชช.ตลอดเวลา

การเตือนของธนาคารแห่งปทไทยครั้งนี้จึงน่าจะกวดขันเอาจริงอย่างน้อยก็ช่วยให้ปชช.ยังมีที่พึ่งได้บ้าง ไม่ใช่เอาแต่เข้าข้างสถาบันการเงินเพราะมีประโยชน์มากกว่าปชช.