คุณอันใหญ่อยู่ที่การบรรลุธรรมเขาเรียกว่าวิปัสสนา

การบรรลุธรรมนั้นจำเป็นต้องเดินไปตั้งแต่ต้น
ถ้าหากว่าไม่เดินไปตั้งแต่ต้นมันก็ไปไม่ได้

เพราะฉะนั้นสมาธิยังมีการเริ่มต้น
เริ่มต้นด้วยการบริกรรมพุทโธ แต่ก่อนอารมณ์ของเราเยอะแยะมีมาก
ที่เรามีอารมณ์มาก ๆ นั้นไม่ใช่สมาธิ พอตัดอารมณ์ถึงจะเป็นสมาธิได้

เมื่อมีอารมณ์เป็นอันเดียวแล้วจิตก็เป็นหนึ่ง
เมื่อจิตเป็นหนึ่งแล้วจิตก็เป็นสมาธิ
เมื่อจิตเป็นสมาธิแล้วก็สามารถผลิตพลังจิตได้

การเก็บพลังจิตนั้นก็เก็บไว้ที่ตั้งของจิต เราตั้งจิตไว้ที่ไหนพลังจิตก็จะต้องอยู่ที่นั่น

เมื่อเราทำสมาธิหลายครั้งเข้า การผลิตพลังจิตก็มากขึ้น มากขึ้นนั้นสามารถเป็นพลังกำลังให้แก่บุคคลผู้ที่สมาธิได้ นี่ว่ากันถึงเบื้องต้น

เมื่อมีสมาธิแล้วฌานก็เกิดขึ้น
สมาธิไม่มีฌานก็เกิดขึ้นไม่ได้

ทั้งสมาธิและฌานนั้นเป็นของดี ที่เราจำเป็นต้องทำขึ้นมาให้ได้
แต่ว่าของดีนั้น แม้ว่าสมาธิ ฌาน เป็นของดี ถ้าหากว่าหลงละเมอเกินไปก็กลายเป็นของไม่ดี เขาเรียกว่าหลงฌาน

หลงฌานนั้นเป็นกันมาก
เพราะว่าสมาธินี่มันซาบซึ้งเหลือเกิน พอมันเป็นแล้ว มันเกิดความว่าง เกิดความสบาย เกิดสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นในจิตใจของบุคคลผู้นั้นเหลือล้นพ้นประมาณ
แต่ทีนี้อันนั้นไม่ใช่ทางพ้นทุกข์

คนที่หลงฌานหรืออะไรต่าง ๆ นี้ไม่ไปนรกหรอก แต่ว่าทำให้เกิดความล่าช้าเท่านั้นเอง

พระพุทธเจ้าได้ตรัสมหาสติปัฏฐานเอาไว้
มหาสติปัฏฐานทั้ง ๔ คือ กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน

สติปัฏฐานทั้ง ๔ นี้ป้องกันความหลงผิด

การที่บุคคลเข้าไปยึดถือในฌานที่เรียกว่าอรูปฌานนั้น มันลึกซึ้งเกินไป แล้วก็เลยทำให้เกิดหลง
พอทำให้เกิดหลงแล้ว ในอรูปฌานนั้นน่ะมันมีการสูบกินพลังจิต
พลังจิตที่ทำไว้เท่าไหร่นี่ ก็ถูกกินไปจนกระทั่งหมด
ถ้าหากว่าหมดพลังจิตเมื่อไหร่ก็ลืมตัวเมื่อนั้น ถ้าหากว่ายังไม่หมดพลังจิตก็เรียกว่ายังไม่ลืมตัว ก็ยังเข้าฌานสบายอยู่

จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ เล่มแรก หน้าที่ ๔๑
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน

๖๑.๐๓.๑๒