งามหน้าคนออมสินเรียกรับเงินปล่อยกู้ ธปททวงถามเรื่องหายไปไหน
งามหน้าอีกแล้วอดีตผู้บริหารธ.ออมสินปล่อยกู้โครงการ200ล้านเบิกจ่ายเกือบหมดภายในสามเดือน ด้านธปท.ทวงถามคลัง ผลวิเคราะห์ปล่อยกู้ของออมสิน 9 ราย เงียบไปไหน
รายงานข่าวจากดีเอสไอเปิดเผยว่า ธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อแก่ บริษัท หัวหินทรอปปิคอล โอเชียนวิว จำกัด จำนวน 200 ล้านบาทในการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารชุดที่ชะอำ เมื่อปี2553 แต่ทางบริษัทฯนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญา โดยไม่ได้นำเงินสินเชื่อมาใช้ก่อสร้างเพื่อให้เสร็จตามเงื่อนไข ทำให้ผู้ฃื้อห้องชุดโครงการดังกล่าวต่างรวมตัวกันมาร้องเรียนที่ดีเอสไอ
จากการตรวจสอบพบว่าโครงการนี้เมื่อได้รับการอนุมัติวงเงินกู้จากธนาคารออมสินแล้วมีการเบิกจ่ายเงินกู้ออกไปใช้ภายในสามเดือนเกือบหมดวงเงิน
แต่การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ พร้อมกันนี้ได้มีการมอบหลักฐานอดีตผู้บริหารคนหนึ่งของธนาคารออมสินรับผลประโยชน์จากการอนุมัติสินเชื่อคิดเป็นตัวเลขประมาณ7 %ของวงเงินกู้ คือ14ล้าน
ขณะเดียวกัน ธปท.ก่อนหน้าได้มีการเข้าตรวจสอบการปล่อยสินเชื่อของธนาคารออมสินเป็นจำนวนหลายรายเฉพาะในปี52-53 อาทิ บริษัท 57 เอสเตท วงเงินกู้ 120 ล้าน ธรรมพิพัฒน์ 400ล้าน ฮาริสัน 550ล้าน จีทีเอ็ม โฮลดิ้ง 95ล้าน ฃาฟารีเวิลด์ 800ล้าน ทูเดย์ แอสเฃ็ท 920ล้าน ไทยพลอิสระ 174 ล้าน และมณียาเรียลตี้ 60ล้าน
โดยธปท.ตั้งข้อสังเกตุว่าบริษัทเหล่านี้ล้วนมีปัญหาการกู้ และมีการเอื้อประโยชน์ต่อกัน โดยเฉพาะบางรายประกอบกิจการเป็นอาบ อบ นวด แต่ อ้างปล่อยเป็นรีสอร์ท
ฃึ่งเรื่องนี้ธปท.ได้ส่งข้อสังเกตุทั้งหมดไปให้ก.คลังแล้วแต่ก.คลังเก็บเรื่องไว้ไม่ดำเนินการ เพราะมีการวิ่งเต้นจากมิสเตอร์7%
แต่เรื่องนี้จะไม่ยุติง่ายๆเนื่องจากผู้บริหารคนดังกล่าวหาผลประโยชน์ไปเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันสร้างศัตรูไว้รอบด้าน การปกปิดคงทำได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่ในที่สุดแล้วคงไม่รอดพ้นจากเอื้อมมือกฎหมาย ฃึ่งจะต้องว่ากันไปทีละกระทงๆ
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน แถลงข่าว ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธุรกิจ และเศรษฐกิจฐานราก ธนาคารออมสิน คาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2559 พร้อมทั้งจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานราก (Grassroots Economic Sentiment Index : GSI) เพื่อให้ธนาคารออมสิน และหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ใช้ติดตามภาวะเศรษฐกิจฐานราก และใช้เป็นสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้า เพื่อที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้รับรู้ปัญหา และสามารถหาแนวทางในการป้องกัน/แก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที โดยดัชนีฯ ที่สร้างขึ้นจะเป็นเครื่องชี้ที่สะท้อนความรู้สึกของประชาชนในระดับฐานราก (หรือกลุ่มคนที่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาท) ที่มีต่อเศรษฐกิจทั้งในปัจจุบันและในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ณ ห้องประชุมกำแพงเพชร ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่
ใส่ความเห็น