ปฎิรูปตรไม่คืบ กระบวนการยุติธรรมต้นนำ้มีปัญหาต่อไป
ปฎิรูปตร.ไม่คืบ ล่าสุดศาลสั่งยกฟ้องคดีอาญาเพียบหลัง ตร.ไม่ปฎิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134/1 วรรคหนึ่ง กรณีพนักงานสอบสวนไม่ได้ถามผู้ต้องหาว่า มีทนายความหรือไม่ ถ้าไม่มีให้แจ้งว่า รัฐจัดหาทนายความให้ได้
หลังจากที่มีการเรียกร้องให้มีการปฎิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเป็นเวลานานหลายสิบปี มีการใช้งบประมาณแต่ละครั้งเป็นสิบล้านบาท โดยเฉพาะครั้งที่มีพลเอก วันชัย ศรีนวลนัด ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว แต่เรื่องกลับถูกฃุกไว้ใต้พรมเหมือนเดิม ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคงปฎิบัติงานเหมือนเดิม ไม่เป็นที่พอใจของปชชต่อการปฎิบัติหน้าที่ในการเป็นต้นน้ำแห่งกระบวนการยุติธรรม
ล่าสุดในการพิจารณาคดีของศาลพบว่ามีการสั่งยกฟ้องในคดีอาญา หลายคดี เนื่องจาก พนักงานสอบสวนไม่ดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134/1 วรรคหนึ่ง กรณีพนักงานสอบสวนไม่ได้ถามผู้ต้องหาว่า มีทนายความหรือไม่ ถ้าไม่มีให้แจ้งว่า รัฐจัดหาทนายความให้ได้
นับเป็นการทำงานที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อราชการหรืออาจมองไปได้ว่า พนักงานสอบสวนจงใจกระทำการประมาทเลินเล่อ เพื่อให้ผู้ต้องหาพ้นผิด
อีกประการหนึ่ง ในการแต่งตั้งผู้บริหารประจำสถานีตำรวจ หรือ ในระดับต่างๆ บางตำแหน่งอยู่เกิน4ปี แต่ไม่มีการปรับเปลื่ยน ทำให้งานที่ออกมาหย่อนประสิทธิภาพ เพราะผู้บริหารไม่ได้ตั้งใจทำงาน บางโรงพักสกปรก มีกลิ่นเหม็น สภาพไม่พร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้ปชชที่ไปติดต่อราชการ แล้ว ในการสอบสวนทำคดียังล่าช้า ไม่ได้รับการกวดขัน ติดตาม จากผู้บริหาร ทำให้คดีค้างคา จำนวนมาก
กระบวนการยุติธรรมต้นน้ำจึงมีปัญหา เพราะไม่ได้รับการปรับปรุงแก้ไขและเอาจริงให้เป็นระบบที่เชื่อถือได้ ผบ.ตร แต่ละคนที่เข้ามา ก็บริหารงานตามน้ำไป จนกว่าจะหมดอายุการทำงาน เพราะไม่สามารถทำอะไรได้หรือไม่อยากจะทำเช่นกัน
เมื่อเกิดปัญหาการยกฟ้องของศาลในกรณีนี้ ทำให้ฝ่ายอัยการฃึ่งเป็นกลางน้ำ ต้องออกมากำชับอัยการให้ระมัดระวังและตรวจสอบ
ทั้งนี้เมื่อพิจารณาแล้ว พนักงานสอบสวนที่ไม่ดำเนินการดังกล่าว ย่อมอยู่ในฐานะประมาทเลิ่นเล่อ ส่อไปในทางประพฤติไม่ชอบ ได้ สมควรที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องตรวจสอบเอาจริงกับการทำงานของพนักงานสอบสวนต่อไป
ใส่ความเห็น