เรื่องเล่าจากชายผู้หนึ่งถึงพระเทพฯ
วันที่2เมษายน เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ มีเรื่องของเพื่อนผมคนนึงมาเล่าสู่กันฟังครับ
เรื่องเกิดเมื่อประมาณต้นเดือนมีนาคม 2559 นี่เอง
เพื่อนผมคนนี้ทำงานเป็นรองหัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยของห้างโลตัส วันนึงมันก็เดินตรวจตราพื้นที่ภายในห้างไปตามประสา จู่ๆก็ได้ยินเสียงเรียกมาจากทางด้านหลัง
“หนูๆ ที่นี่มีสตอเบอรี่ขายมั้ย”
เพื่อนผมหันกลับไปมอง เป็นหญิงวัยกลางคนใส่แว่นตาดำ สวมหมวกแก้บสีแดง
“อ้อ มีครับคุณป้า เดินตรงไปเลี้ยวซ้ายก็เจอแล้วครับ” มันชี้มือไปทางแผนกผลไม้ โดยที่ไม่ทันสังเกตว่า”คุณป้า” ที่มันเรียกไปว่าอย่างนั้น ไม่ได้มาคนเดียว
“อืม ไปยังไงนะ” หญิงท่านนั้นดูท่าทางลังเล เพราะจากจุดที่ยืนอยู่มองไม่เห็นผลไม้เลยซักนิด
“โอเค คุณป้าเดินตามผมมาเลยครับ เดี๋ยวผมพาไป” แล้วเพื่อนผมมันก็เดินนำไปอย่างเร็ว โดยมี “คุณป้า” เดินตามอยู่ห่างๆ
“ถึงแล้วครับ คุณป้าจะเอากี่กล่อง”
“ฉันขอสอง”
“งั้นเดี๋ยวผมหยิบให้….” ขณะกำลังเอื้อมมือไปหยิบกล่องสตอเบอรี่ ก็มีมือกำยำมาแตะที่แขนมัน
“ไม่เป็นไรน้อง เดี๋ยวพี่หยิบเอง” เพื่อนผมเงยหน้าขึ้นไปมองต้นเสียง เป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ใส่แว่นดำแต่งตัวสีเข้มทะมัดทะแมง
“อ้อ ครับๆ” มันยิ้มแหยๆ ถอยออกมานิดหน่อย ตอนนี้มีเวลาพอให้มันหันมาทางคุณป้า เห็นมีชายรูปร่างและแต่งกายคล้ายกันอีกคนยืนอยู่ข้างหลัง
คุณป้าคนนี้ไม่ธรรมดาแฮะ มันคิด แต่เพียงแค่เสี้ยววินาทีต่อจากนั้น มันก็รู้แล้วว่ามีอะไรบางอย่างผิดพลาด ใจหล่นวูบทันทีทันใด และมือก็เย็นเฉียบขึ้นมา
“พระเทพ….” มันพูดออกมาแบบไม่มีเสียง ได้ยินแค่ในความคิดของตัวเอง
“เอ้อ เดี๋ยวผมเอาไปจ่ายเงินให้นะครับ รอตรงนี้นะครับ” พูดจบมันก็คว้าเอาสตอเบอรี่สองกล่องจากมือชายคนนั้น วิ่งตรงไปที่เค้าเตอร์จ่ายเงิน มันไม่รู้ว่ากลับมาจะมีใครรออยู่ไหม แต่ที่มันรู้คือมันอยู่ตรงนั้นไม่ได้แล้ว มันตกใจและทำอะไรไม่ถูก
จ่ายเงินเสร็จ ก็นานพอที่จะดึงสติ
กลับเข้าที่ มันรีบเดินกลับมา บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าอยากเห็นเค้ายืนรอกันอยู่หรืออยากเห็นความว่างเปล่ากันแน่
“คุณป้า” คือสมเด็จพระเทพฯ
และทั้งสามคนยังยืนอยู่ตรงนั้น
มันรีบเดินเข้าไปตรงหน้าท่าน และจะคุกเข่าเพื่อถวายของในมือ แต่แค่ย่อตัวลงชายคนนึงก็มาจับศอกและดึงขึ้น มันไม่ขัดขืน ยืนขึ้น คิดในใจว่ามันทำอะไรพลาดไปอีกแล้วหรือเปล่า
“ท่านเสด็จเป็นการส่วนพระองค์ ไม่ต้องทำให้เอิกเริก” ชายแว่นดำเข้ามากระซิบบอก
มันพยักหน้า หันมามอง “คุณป้า” แล้วมันก็เริ่มร้องให้ น้ำตาหยดเป็นทาง…. อย่าถามว่าร้องทำไม มันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
“อ่ะ นี่เงินค่าสตอเบอรี่” คุณป้ายื่นแบงค์ห้าร้อยมาให้
“มะ ไม่เป็นไรครับ ผมซื้อถวาย” มันโบกมือปฎิเสธ ละล่ำละลักพูดออกไป น้ำมูกเริ่มจะไหลปนกับน้ำตา และมันคิดไม่ออกว่าคำว่า “ซื้อ” ในราชาศัพท์ควรพูดว่าอย่างไร
“รับไปเถอะ ถือว่าเป็นขวัญถุง” ท่านยื่นให้มันอีกครั้ง มันก้มตัวย่อขารับมา ทั้งที่จริงแล้วอยากก้มลงกราบใจจะขาด
“ขอให้ทำมาหากินเจริญรุ่งเรืองนะลูก” พูดจบท่านก็เอามือลูบหัวมันสองครั้ง
ลูบหัว….นี่เป็นเรื่องไม่คาดฝันที่สุดแล้วมั้ง
ท่านกำลังจะหันหลังกลับ ….มันต้องทำอะไรต่อล่ะทีนี้
“เอ่อ ผมขอเดินไปส่งนะครับ”
ท่านพยักหน้า แล้วออกเดินนำไป เพื่อนผมเดินตามหลัง ตัวงอๆ โดยมีชายแว่นดำสองคนเดินตามห่างๆอีกที
“แถวนี้มีร้านอาหารอะไรอร่อยๆแนะนำบ้างไหม….”
นั่นคือจุดเริ่มต้นของบทสนทนาสั้นๆ ก่อนที่ท่านจะเสด็จขึ้นรถพระที่นั่ง
รถเบนซ์คันโตเคลื่อนตัวช้าๆออกไป เพื่อนผมเริ่มต้นร้องให้อีกรอบ ในมือกำแบงค์ห้าร้อยไว้แน่น
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
#นี่คือธนบัตรใบนั้น
ใส่ความเห็น