ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสข้อความในเฟฃบุ๊คตัวเอง

image

กล่าวถึงคำสอนชีวิตแก่ข้าพเจ้า พ่อเคยสอนแก่ข้าพเจ้าไว้แต่เด็ก การรับราชการและทำงานเพื่อแผ่นดิน เรื่องที่มีความสำคัญยิ่งในชีวิตที่สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสอนประทานไว้แก่พ่อ จงอย่าโอ้อวดหลงลืมตัว อย่านำเรื่องวงศาคณาญาติญาติและพวกพ้องกับราชการงานเมืองมาเกี่ยวพัน เพราะมันเป็นคนละเรื่องกัน อย่ามองคนเหมือนกันไปเสียหมด คือ ดีและไม่ดีต้องรู้จักแยกแยะและคบคนให้เป็นให้ถูก บางครั้งแกล้งทำโง่ไว้ดีกว่าอวดรู้อวดฉลาด แต่กลายเป็นโง่ในสายตาของคนอื่นที่เขาไม่อยากพูดให้สิ้นเปลืองเวลา อย่าทะลึ่ง อย่าเล่นกับสุนัข สุนัขเลียปาก เล่นกับสาก สากต่อยหัว แต่จงมีความระมัดระวังตัว เจียมเนื้อเจียมตัวเป็น ที่ชีวิตเราและครอบครัวจะเกิดสุข.

คนที่เรียนประวัติศาสตร์ผ่านมาคงรู้ว่า สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ท่านเป็นใคร คนที่เป็นข้าราชการกระทรวงมหาดไทยต้องรู้จักเป็นอย่างดี
คำบอกเล่าของ มล.ปนัดดา ดิศกุล จะไม่เกิดผลเลยถ้าตัวท่านจะมิได้ปฎิบัติเช่นนั้น แต่เผอิญท่านได้ปฎิบัติตามโดยมิได้ใช้อภิสิทธิชนในการไปยืนต่อแถวเช่นที่ปชชคนอื่นเข้าทำกัน

เมื่อท่านมาพูดให้ข้อคิดเช่นนี้ หากให้ท่านไปเป็นรมว.มหาดไทย คงจะดีไม่น้อย เราจะได้เห็นข้าราชการกระทรวงมหาดไทยกระทำตัวไม่โอ้อวด ลืมตัว โง่แล้วอวดฉลาดให้คนเขาหัวเราะเยาะเอาได้ หรือเสียเวลาจะมาพูดด้วยให้เปลืองเวลา
เพราะข้าราชการสมัยนี้ต้องบอกตรงๆว่า ใหญ่โตต่อปชชกันเหลือเกิน เพราะเขาถูกนายกรัฐมนตรีที่มาจากการรัฐประหารให้ท้าย ผิดกับนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง ฃึ่งมักจะคำนึงถึงการบริการต่อปชชเพื่อให้ได้ความนิยมกลับคืนมา แต่ในการให้บริการ เคารพต่อความเป็นปชชผู้จ่ายภาษีให้รัฐนั้น นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งฉลาดๆก็จะให้สิ่งปลูกขวัญเป็นกำลังใจต่อการทำงานของข้าราชการเพื่อปชชตอบแทนเช่นกัน

ต่างจากนายกรัฐมนตรีที่มาจากการรัฐประหาร ย่อมอยากจะให้ข้าราชการร่วมมือกับตนเองมากกว่าจะคำนึงถึงปชช จึงมักจะหาประโยชน์ทุ่มเทให้กับข้าราชการ เอาใจข้าราชการ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการประจำหรือข้าราชการการเมือง จะเห็นว่าการไปติดต่อข้าราชการปัจจุบันนี้ ปชชต้องกลับมากลัวหงออีกเช่นเคย เพราะคำพูดที่ใช้กับปชชนั้นมันทั้งข่มขู่ มันทั้งแล้งน้ำใจ
ยิ่งโดยเฉพาะในต่างจังหวัดนั้น ข้าราชการเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
นึกจะว่านึกจะพูดอะไร ไม่ดูหน้าดูตา แก่คราวพ่อคราวแม่ ยังไม่เว้น หากใครขืนไปหือพวกนี้ก็จะรวมตัวกันกลั่นแกล้งคิดว่าเขาทำอะไรไม่ได้ โดยลืมคิดไปว่าปชชมีมือมีเท้าเหมือนตนเอง เป็นคนทำได้เหมือนตัวเอง

ท่านปนัดดา บอกว่า อย่าทะลึ่ง

ยิ่งไปคบกับคนเลว ท่านบอกว่า อย่าเล่นกับสุนัข สุนัขมันจะเลียปาก เล่นกับสาก สากต่อยหัว จึงให้ระมัดระวังตัวให้ดี
คำบอกเล่าของท่านปนัดดา ดูจะเข้าใจง่าย แต่ข้าราชการมหาดไทยปฎิบัติยาก โดยเฉพาะพวกของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ตั้งแต่ระดับกรมลงมาระดับอบต.นี่ ถูกใช้เกณฑ์ประเมินม44ของนายกรัฐมนตรีที่ได้ตระหนักถึงการให้ท้ายข้าราชการแล้วเกิดเสียงบ่นด่าทอเข้าหูท่านเป็นจำนวนมาก จนท่านต้องหันกลับมาดูแลปชชที่ถูกข้าราชการรังแกด้วยการไม่ทำงาน กันแล้ว

คำบอกเล่าของท่านปนัดดา จึงเป็นคำเตือนจากสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพผ่านปลายคีย์บอดของโลกออนไลน์มาสู่ข้าราชการให้ตระหนัก