เห็นยูทูบของ”ทนาย”หลายคน อาศัยการโฆษณาตัวเองในทุกรูปแบบเพื่อ”เรียกคดี”ให้มาหาตน หรือโฆษณาว่าตัวเอง”เก่ง” อย่างมากมาย ปูทางไปสู่”เงิน”และช่องทางทางการเมือง โดยอาศัยจำนวนคนกดlike กด share สร้างเครดิตทางยูทูบ ทางเพจ

แน่นอนละมันคือ ค่าชื่อเสียงและค่าว่าความ ที่ต้องแลกมากับการดูโฆษณานั้น

ฃึ่งความจริงไม่รู้ว่าเก่งตามราคาคุยหรือไม่ เพราะทนายเขาก็ไม่ก้าวก่ายกันและกัน บางคนถึงกับประกาศว่า ใครที่มีทนายอยู่แล้วจะมาเปลื่ยนทนายใหม่ เขาก็ไม่รับว่าความให้

ทำเป็นจิตวิญญาณสูงส่ง โดยไม่เปิดโอกาสให้ลูกความได้มีสิทธิในการคัดเลือก เลือกตัว”ทนาย” ที่อาจจะมีคุณภาพ มีคุณธรรม กว่าคนเก่า ฃึ่งมันคือ สิทธิ ของประชาชน ของลูกความ ที่จะถูกคุ้มครองด้วยเช่นกัน

ยูทูบที่ดูวันนี้เห็นแล้วอนาถมาก หัวข้อคือ ทำไมต้องจ่ายค่าที่ปรึกษาให้ทนาย

สรุปเหตุผลคือเรื่องของผลประโยชน์ของทนายความทั้งสิ้น
โดยไม่คิดว่า การที่ลูกความโทรสอบถามเล่าเรื่อง คือ การทดสอบความรู้ของทนายที่ตนจะจ้างนั่นแหละ มันเป็นการจูนความคิดว่าทนายคนที่เราจะจ้างมีความรู้มีทัศนคติ ที่เข้ากับคดีที่ลูกความถามหรือไม่ โดยเฉพาะนิสัยใจคอของทนายเข้ากับเราได้หรือไม่

ไม่ใช่จะเอาแต่ปิดปากเรา ถามความคืบหน้าคดีก็ไม่ได้ ถามวิธีการดำเนินคดีก็ไม่ได้ “ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทนาย”แต่แพ้หูตูด(ตูบ) กลับมา555

เสียเงินแล้วเสียใจอีกต่างหาก
วันก่อนมีคนส่งรายชื่อทนายมาให้หลายคนเพื่อเก็บเข้าแฟ้มเป็นทนายที่เขาบอกว่า ไม่เห็นแก่เงิน ไม่เห็นแก่อิทธิพล เป็นเสียงของลูกความที่ได้เจอกับตนเอง

แต่มีทนายคนหนึ่งกลัว”ผู้พิพากษา”ขึ้นสมอง ไม่กล้าแตะในสิ่งที่คาดว่า”ไม่ถูกต้อง” เพราะต้องการหวังผลชนะในทุกคดี ต้องทำให้ผู้พิพากษา”ชอบ” เวลาคดีขึ้นสู่ศาล ผู้พิพากษาจะได้เห็นใจมีทัศนคติที่ดีต่อบริษัทที่รับว่าความ

ทั้งที่รู้ว่าดุลพินิจอาจมีอคติเกิดขึ้น แม้คดีนั้นอาจจะนอนชนะมาแล้วก็ตามโอกาสคดีพลิกจากชนะจะเป็นแพ้ทันทีก็ได้ หลายคนเจอมาอย่างนั้น

ก็แปลกมากว่าจริยธรรมในองค์กรศาล ถูกปกป้องพวกเดียวกัน

จริยธรรมทนาย จริยธรรมตำรวจ อัยการ ก็ถูกปกป้องด้วยพวกเดียวกัน

โดยไม่มีการคานอำนาจ ในการตรวจสอบโดยหน่วยงานอื่น

ทำให้ระบบความยุติธรรมบ้านเรามันโยกเย้ก ไม่มีพวก ไม่มีเงิน
เสร็จทุกราย

อยากให้มีการปฎิวัติ ปฎิรูป โดยประชาชน
ไม่ใช่โดยทหาร หรือ นักการเมือง

เพราะพวกนี้ก็ทำด้วยประโยชน์ของตนเอง

แต่ปฎิวัติโดยประชาชนก็เพื่อประชาชน
จะเห็นว่าการออกกฎหมายที่ผ่านๆมา ประชาชนเป็นฝ่ายเสียประโยชน์ทั้งสิ้น ถึงขนาดว่าแก้รัฐธรรมนูญเพื่อริดรอนสิทธิของประชาชนกันทีเดียว

เช่น สนช ที่มาจากรัฐประหารก็แก้กฎหมายตามที่องค์กรศาลสั่ง คือ คดีสิ้นสุดที่ศาลอุทธรณ์
การอุทธรณ์ต้องขออนุญาต ถ้าไม่อนุญาตคดีจะสิ้นสุดทันทีตามสั่งของศาลชั้นต้น
การฎีกาปกติส่งถึงศาลฎีกาโดยตรงเดี๋ยวนี้ต้องส่งผ่านชั้นอุทธรณ์ให้ศาลอุทธรณ์เห็นด่วยก่อนจึงจะส่งไปศาลฎีกา

ริดรอนสิทธิประชาชนโดยฝ่าฝืนกฎหมายรัฐธรรมนูญ ไม่แยแสประชาชนเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมแต่ทะลึ่งเห็นแก่”งานเยอะ”ของคนที่ประชาชนทำงานหนักหาบเหงื่อสมองจ่ายภาษีจ้างคนมาทำงานแต่ดันบอกงานเยอะจึงต้องจำกัดสิทธิของประชาชนในการเรียกหาความยุติธรรม 

    นี่แหละอำนาจของประชาชนที่ว่ากันว่าใหญ่สุด จริงหรือ

หรือนี่คือผลประโยชน์ที่ได้มาด้วยการริดรอนกำจัดสิทธิของปชช.ของกลุ่มที่ขานตัวเองว่า “ทำหน้าที่ยุติ- ธรรม”