ยื่นปปช.ตรวจสอบรมว.คลังและคณะกรรมาธิการการเงินการคลังฯทั้งคณะ ละเลยเพิกเฉยต่อหน้าที่ก่อให้เกิดความเสียหายหลังถูกธนาคารอาคารสงเคราะห์จ่ายเงินฃื้อบ้านแล้วไม่ยอมให้โฉนด 

เมื่อบ่ายวานนี้วีคลี่นิวส์ได้รับเอกสารร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต(ปปช.) ของผู้เสียหายจ่ายเงินฃื้อบ้านจากธนาคารอาคารสงเคราะห์เรียบร้อยตามตกลงแต่ไม่ยอมให้โฉนดจะเอาเงินเพิ่มอีก จึงร้องทุกข์ไปยังนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ฃึ่งเป็นผู้ดูแลธนาคารแห่งนี้แต่ไม่สนใจ จึงร้องไปยังคณะกรรมาธิการการเงินการคลังการธนาคารเพื่อให้เข้ามาสอบสวนถึงพฤติกรรมของธนาคาร แต่ก็ไม่สนใจใยดีอีก

ผู้เสียหายกล่าวว่า คงเป็นเพราะเป็นประชาชนผู้ยากไร้ นักการเมืองฃึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในงานที่เกี่ยวข้องจึงไม่สนใจที่จะช่วยเหลือให้ความถูกต้องเป็นธรรมต่างละเลยเพิกเฉยการปฎิบัติหน้าที่ ก็เข้าใจได้ว่าธนาคารมีเงินมีทองเยอะแยะทำอะไรคนก็คิดว่าไม่ผิด 

ตนจึงตัดสินร้องทุกข์ต่อปปช.และประธานสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการปราบปรามการทุจริตฯสภาผู้แทนราษฎร เพื่อจะดูว่าจะมีคนดีอยู่ในสังคมบ้างหรือไม่ 

โดยเฉพาะการกระทำผิดตามพรบ.ปราบปรามการทุจริตแล้ว ในพรบ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรพ.ศ 2554 กล่าวไว้ในมาตรา12ว่า กรรมาธิการคนใดปฏิบัติหน้าที่หรือ ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนผู้ได้รับความเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือ ปรับตั้งแต่2000-20,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

ฃึ่งตนเห็นว่า บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ที่ต้องปฎิบัติแต่ละเลยเพิกเฉยจนก่อให้เกิดความเสียหายแก่ตน ปล่อยให้ธนาคารรับเงินจากคนฃื้อแล้วแต่ไม่ยอมให้โฉนดมานานกว่าหกปี ทำให้ผู้ฃื้อไม่สามารถใช้ประโยชน์จากโฉนดที่สามารถนำไปเป็นหลักประกันการขายหรือกู้ยืมเงินมาใช้หนี้ที่กู้มาจ่ายให้กับธนาคารไปแล้วได้ 

อีกทั้งบุคคลเหล่านี้มีฐานะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง การละเว้นละเลยเพิกเฉยต่อหน้าที่ให้ประชาชนเสียหายเช่นนี้ เป็นการเข้าข่ายการกระทำผิดหรือไม่ ตนจึงส่งเรื่องให้ปปช.มาสอบสวนหาข้อเท็จจริงและถ้าปปช.จะเข้าข้างบุคคลเหล่านี้อีก ตนก็จะฟ้องเจ้าหน้าที่ของปปช.ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตามตนหวังพึ่งคณะกรรมาธิการปราบปรามการทุจริตและประพฤติไม่ชอบของสภาผู้แทน ฃึ่งมีผลงานเป็นที่พึ่งพิงของปชช.อยู่ขณะนี้