image

 

จับตาผู้บริหารธนาคารออมสิน ลุยระบบเชื่อมต่อบัตรเครดิต อ้างสนองลูกค้าต่างจว

รายงานข่าวจากธนาคารออมสิน เปิดเผย วีคลี่นิวส์ออนไลน์ว่า ในการเปลื่ยนแปลงผู้บริหารธนาคารออมสิน และมีการนำคนนอกเข้ามารับตำแหน่งงานในระดับสูง ฃึ่งส่อถึงการคัดสรรที่น่าสังเกตุว่าไม่ถูกต้องตามกระบวนการของธนาคารนั้น แหล่งข่าวกล่าวว่า เพื่อเตรียมรับมือกับการขยายโครงการสร้างระบบเชื่อมต่อบัตรเครดิต แต่เดิมใช้ร่วมระบบกับ บริษัท กรุงไทย จำกัด แต่เนื่องจากนโยบายของผู้บริหารใหม่ต้องการสร้างงานใหม่ จึงมีแนวคิดออกบัตรเครดิตเป็นของตนเอง โดยยกเลิกการร่วมใช้ระบบจากบริษัท กรุงไทย จำกัด มาดำเนินการเอง ฃึ่งตั้งเป้าออกบัตรเครดิต ประมาณ 200,000 ใบ

โดยจะเริ่มดำเนินการในเดือนมี.ค นี้ ทั้งนี้แหล่งข่าวกล่าวว่า การเชื่อมต่อระบบบัตรเครดิต ต้องใช้เงินมากกว่าร้อยล้าน เพื่อรองรับให้ระบบดำเนินการได้
หากถามว่าธนาคารมีความจำเป็นต้องทำระบบนี้จากเดิมที่ใช้ร่วมกับบริษัท กรุงไทย จำกัด หรือไม่นั้น ตนเห็นว่า ไม่จำเป็น เพราะลูกค้าของธนาคารออมสินส่วนใหญ่เป็นลูกค้าระดับรากหญ้า

อย่างไรก็ตามเรื่องการทุจริตในธนาคารออมสินนั้น มีมานาน และผอ.ธนาคารออมสิน ได้ประกาศมาตั้งแต่รับตำแหน่งว่า จะเข้ามาปราบทุจริต แต่ปัจจุบันไม่รู้ปราบได้มากน้อยเพียงใด

image

ผู้สื่อข่าว วีคลี่นิวส์ออนไลน์ ได้ติดต่อเพื่อสอบถามเรื่องราวจาก นาย ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผอธนาคารและนาย อิสระ วงศ์รุ่ง รองผอ.ผ่านทางหน้าห้องชื่อ หญิง และ หน้าห้องผอ. ชื่อไรไม่ยอมบอก เพื่อขอทราบข้อมูลเป็นประการใด แต่ไม่ได้รับการติดต่อกลับ

อนึ่งวีคลี่นิวส์ออนไลน์ได้รับทราบว่า ที่ผ่านมาระดับผู้บริหารมีการใช้เงินไปในทางที่เป็นข้อครหา คือ กินอาหารกลางวันสั่งตรงจากร้านหรูๆมีชื่อเสียง และสั่งเผื่อกลับบ้านโดยใช้งบประมาณเบิกจ่ายของธนาคาร ฃึ่งเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่วีคลี่นิวส์ออนไลน์ได้ตั้งคำถามด้วยต่อนาย ชาติชาย เนื่องจากเป็นผู้ประกาศจะเข้ามาล้างบางการทุจริตในออมสิน

แต่ไม่ปรากฎว่านาย ชาติชาย จะสนใจต่อการตั้งคำถามของวีคลี่นิวส์ที่ฝากไว้กับหน้าห้อง และฝ่ายปชสสื่อสารองค์กร นานแล้ว สะท้อนให้เห็นว่าการประกาศล้างบางทุจริตในองค์กรนี้น่าจะมีปัญหาไปเจอตอหรืออย่างไร

อย่างไรก็ตามปัจจุบันพนักงานออมสินต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า การบริหารยุคนี้เป็นไปอย่างหล้า หล้า หมายถึง สบายๆ ไม่กลัวการถูกตรวจสอบ

สำหรับผู้บริหารคนก่อนที่มีปัญหาการตรวจสอบหลายเรื่องนั้น ไม่ปรากฎว่าผู้บริหารชุดปัจจุบันจะได้ทำการตรวจสอบพนักงานออมสินที่ร่วมปฎิบัติการด้วย แต่อย่างใด จึงถือว่านโยบายอันดับแรกของนาย ชาติชาย อาจจะล้มเหลวไปแล้ว