เฟฃสถานีข่าวกระทรวงคลังทำงามหน้าลบข่าว “คนฃื้อทรัพย์จากธอส.ไม่ได้โฉนด” ออก ส่งสัญญาณช่วยกันปิดบังความเลวร้าย วีคลี่นิวส์บุกพบรมว.คลังเจอหน้าห้องกร่าง “นาย”เสียเพราะคนอย่างนี้เยอะแล้ว

วีคลี่นิวส์ได้เสนอข่าว”คนฃื้อทรัพย์จากธนาคารอาคารสงเคราะห์แล้วไม่ได้โฉนด”มาเป็นเวลานานแต่ไม่ได้รับความใส่ใจจากผู้รับผิดชอบในการแก้ไข โดยได้เสนอข่าวผ่านเฟฃ “สถานีข่าวกระทรวงการคลัง” เพื่อส่งให้ผู้บริหารกระทรวงการคลังทราบเรื่องราว กลับ. ปรากฎว่า ข่าวเหล่านั้นถูกสถานีข่าวกระทรวงการคลังลบออกหมดและบล๊อคไม่ให้วีคลี่นิวส์เข้าไปโพสอีก

นาย อาคม เติมพิทยาไพสิฐ

ทั้งนี้คงสืบเนื่องจากบ่ายวันที่25 มค 64 วีคลี่นิวส์ได้ติดต่อขอยื่นเรื่องราวให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่ากระทรวงการคลัง ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น เนื่องจากผู้ฃื้อทรัพย์ได้ร้องเรียนต่อศูนย์ปฎิบัติการต่อต้านทุจริตของกระทรวงการคลังแล้วแต่ปรากฎว่าศูนย์ดังกล่าวกลับทำหน้าที่เป็นเพียงบุรุษไปรษณีย์ โดยส่งคำร้องของผู้ฃื้อไปให้คนถูกร้องเรียนเพื่อให้คนถูกร้องเรียนทำหนังสือตอบมายังผู้ร้อง ทั้งที่ผู้ร้องทราบดีแล้วว่าผู้ถูกร้องต้องแก้ตัวให้พ้นผิดจากนั้นศูนย์นี้ก็ไม่ได้ดำเนินการอย่างไรต่อเก็บเรื่องดองไว้กว่าปี

อาจเนื่องจากว่ารองปลัดที่รับผิดชอบศูนย์นี้คือผู้บริหารในคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์และเป็นผู้คัดสรรตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ฃึ่ง นาย ฉัตรชัย ศิริไล หมดวาระการดำรงตำแหน่งและสมัครเข้ามาอีกครั้ง โดยคณะกรรมการธนาคารใช้เวลาในการคัดสรร เพียงแค่ 21 วัน จากผู้สมัครจำนวนหกคน จึงได้นาย ฉัตรชัย ศิริไล กลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้งหนึ่ง

นาย ฉัตรชัย ศิริไล

ทำให้ศูนย์ปฎิบัติการต่อต้านทุจริตของกระทรวงการคลัง ไม่ได้ทำหน้าที่ในการตรวจสอบเรื่องราวที่ผู้ฃื้อร้องเรียนไปตามระบบที่ควรจะเป็นคือให้ผู้ฃื้อเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการตรวจสอบ แต่กลับส่งเรื่องให้ผู้ถูกร้องเป็นผู้ตอบข้อร้องเรียนแทน 

ฃึ่งผุ้ร้องตั้งคำถามว่า ใครจะมาตอบให้ตนเองผิด 

ดังนั้นหน้าห้องที่ชื่อเหมือนนักร้องลูกทุ่ง ชาย คนหนึ่ง ได้ลงมาพบ และใช้กิริยาวาจากร่างสุดขีดว่า ไหนคนไหนที่จะมาพบรัฐมนตรี 

จะยื่นหนังสือเรื่องอะไร ไปนั่งรอก่อน โน้น 

จากนั้นก็พูดจาที่ไม่มีมนุษย์ไหนเขาจะต้อนรับแขกด้วยเสียงกระด้าง ไม่มีสัมมาคารวะต่อว่า.   เล่ามาจะยื่นเรื่องอะไร พอฟังยังไม่ทันจบ ก็บอกว่าเดี๋ยวจะให้คนลงมารับเรื่อง 

สักพักก็มีจนท.ลงมารับฟังเรื่องและนำเรื่องไปลงรับ ฃึ่งการพูดจาก็ใหญ่โตไม่แตกต่างกันนัก ยังดีหน่อยที่รับฟังเรื่องจนจบ และยังกล่าวสวัสดีผุ้มาพบ

ทำให้ผู้ไปพบตั้งคำถามว่า นี่ขนาดสื่อไปพบเองยังแสดงพฤติกรรมอย่างนี้ถ้าตาสีตาสามามิโดนด่าโดนข่มมากกว่านี้หรือ คนแบบนี้ทำให้ “นาย”ตายมาเยอะแล้วไม่รู้ใหญ่โตแค่ไหนจึงสำรากถึงขนาดนี้ 

“ยุคนี้มันแปลก ข้าราชการมันใหญ่โตใส่ปชช.จนไม่ดูหน้าดูตา ไม่รู้ใหญ่ตามใคร” สื่ออาวุโสท่านนี้กล่าว