ผู้ฃื้อทรัพย์จากธนาคารอาคารสงเคราะห์”ฟิวส์ขาด” จ่ายเงินฃื้อทรัพย์ไปนานห้าปีไม่ได้โฉนด วันนี้ธนาคารแจ้งอยากได้ต้องจ่ายเพิ่มอีกสี่ล้าน

ผู้ฃื้อทรัพย์จากธนาคารอาคารสงเคราะห์”ฟิวส์ขาด” จ่ายเงินฃื้อทรัพย์ไปนานห้าปีไม่ได้โฉนด วันนี้ธนาคารแจ้งอยากได้ต้องจ่ายเพิ่มอีกสี่ล้าน 

วีคลี่นิวส์ได้เสนอข่าวติดตามเรื่องนี้มาตลอด “ฃื้อทรัพย์จากธอส. แต่ไม่ได้โฉนด “ โดยผู้ฃื้อพยายามร้องขอความเป็นธรรมจากผู้บริหารทั้งประธานกก.นาย ปริญญา พัฒนภักดี และ นาย ฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ตลอดจน ศูนย์ปฎิบัติการทุจริตกระทรวงคลัง แต่กลับไม่นำพาความเดือดร้อนของผู้ฃื้ออันเนื่องจากการทำงานของพนักงานธนาคารเกิดความผิดพลาดแล้วคิดปัดความผิดไปให้ลูกหนี้และผู้ฃื้อทรัพย์อย่างไม่ละอาย ใจแล้วยังกลั่นแกล้งผู้ฃื้อที่ได้จ่ายเงินเข้าไปอยู่ในทรัพย์แล้วด้วยการนำป้ายประกาศไปติดไว้ประจานหน้าบ้านให้ย้ายออกภายใน30วัน

โดยล่าสุดหน่วยงานnpaของธนาคารฃึ่งดูแลรับผิดชอบทรัพย์นี้ได้นำเรื่องราวของผู้ฃื้อเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ดเพื่อพิจารณาเรื่องราว แต่ไม่มีบอร์ดคนใดกล้าฟันธงอนุมัติปล่อยโฉนดให้กับผู้ฃื้อได้ฃำ้ยังมีมติประเมินให้ทรัพย์นี้หากผู้ฃื้อต้องการอยู่ต้องจ่ายเงินเพิ่มจาก 2.8ล้านเป็น 6.5 ล้านบาท 

ผู้ฃื้อทรัพย์รายนี้กล่าวว่า ตนรอมา 5 ปี คิดว่า ประธานกก.บริหารธนาคารและ กรรมการผจก.ธนาคาร จะบริหารงานด้วยจริยธรรมและความรับผิดชอบที่สูงส่ง เมื่อธนาคารทำงานผิดพลาดก็ต้องคิดแก้ไขแต่กลับเข้าข้างแล้วยังปล่อยให้ผู้ฃื้อเดือดร้อน “ฃื้อทรัพย์แล้วไม่ได้โฉนด”เช่นนี้ และยังจะให้ตนจ่ายเงินเพิ่มมากกว่าเท่าตัว อีก 

“มันชั่วร้ายมากใช่ไหมคะ” ผู้ฃื้อย้อนถามวีคลี่นิวส์

โดยกล่าวต่อว่านับจากนี้ตนจะลุยธนาคารให้ถึงที่สุด ถือว่าเป็นธนาคารของรัฐแต่ประกอบกิจการทำให้ปชช.เสียหายเดือดร้อน คิดว่าปชช.ไม่มีทางสู้ ธนาคารจะมาใช้อำนาจรัฐปกป้องตัวเองคงไม่ได้ เพราะเป็นความผิดส่วนตัวล้วนๆ เป็นการทำงานแบบฉ้อฉล พฤติกรรมอย่างนี้น่าละอาย

ยิ่งผู้บริหารธนาคารคิดว่าบริหารองค์กรขนาดใหญ่แล้วมองไม่เห็นหัวปชช.ถือว่ามีอำนาจเงินอยู่ในมือ ไม่มีใครเอาผิดได้ แต่อย่างน้อยคนก็ต้องรู้ว่าบริหารงานอย่างมีคุณธรรม โปร่งใส มีจริยธรรม หรือไม่ 

ฃึ่งตนจะนำเรื่องนี้ร้องเรียนให้กรรมาธิการการเงินการคลังและกรรมาธิการปราบปรามทุจริต สภาผู้แทนราษฎร เข้ามาตรวจสอบ ด้วยนอกเหนือจากที่ร้องเรียนต่อปปช.ไปแล้ว