“เป็นบ้า”อะไร กรมศุลกากรจึงตรวจสินค้านานเป็นเดือนขณะที่ส่งผ่านพวกชิปปิ้งเร็วรอด แต่สินค้าถูกแกะ ถูกขโมย
“เป็นบ้า”อะไร กรมศุลกากรจึงตรวจสินค้านานเป็นเดือนขณะที่ส่งผ่านพวกชิปปิ้งเร็วรอด แต่สินค้าถูกแกะ ถูกขโมย
วีคลี่นิวส์ได้รับคำร้องเรียนจากปชช.จำนวนหลายรายถึงขบวนการตรวจสอบสินค้าที่คลังสินค้าสุวรรณภูมิว่า ใช้เวลาในการตรวจสอบนานเป็นเดือนกว่าจะได้รับสินค้าเมื่อเทียบกับการส่งของโดยผ่านผู้นำเข้าอย่างfedex จะได้รับสินค้าเร็ว เพราะมีการเคลียร์ให้เป็นอย่างดี
คำร้องเรียนของปชช.ที่เป็นปัญหามาโดยตลอดแต่ไม่มีการได้รับการแก้ไขคือ สิ่งของที่ได้รับถูกเปิดและสิ่งของในนั้นหายไป ไม่ครบจำนวนที่ส่งมา ล่าสุดมีผู้โพสต์ยืนยันเรื่องนี้ว่า ส่งขนมมาคริสมาส ให้แม่ นาน 1 เดือน 12 วัน ไม่โดนภาษี แต่ขนม8 กล่อง หายไป4 กล่อง กล่องหนึ่งมี24ชิ้น เหลือแค่ 8 ชิ้น
จากนั้นมีปชช.ผู้โดนกระทำอย่างเดียวกันเข้ามาให้ข้อมูลการทำงานของฝ่ายตรวจสอบสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นจำนวนมาก
https://www.facebook.com/100044539145093/posts/247039773457326/
วีคลี่นิวส์ได้เดินทางไปสำรวจคลังสินค้าที่เรียกกันว่า free zone พบว่ากว่าจะเข้าไปถึงบริเวณนี้ได้ก็ด้วยความยากลำบากเนื่องจากเมื่อผ่านประตูแรกเข้าไปต้องเสียค่าที่จอดสามช.ม 20 บาท หากอยู่เกินถึง 6 ชม. จาก 20 จะกลายเป็น150 บาท
แล้วจะต้องไปรายงานตัวขอเข้าพื้นที่ต้องกรอกเอกสารและเสียค่าผ่านคนละ30 บาทฃึ่งที่ตั้งของตึกนี้อยู่ห่างจากทางเข้าของตึกfree zone เกือบหนึ่งกิโล หากปชช.ติดต่อหลายจุดก็ต้องใช้วิธีเดินตากแดดจากจุดนี้กลับไปจุดfree zone เรียกว่าเดินกันขาลากขณะที่สภาพตึกก็ดูไม่สะอาด มีกลิ่นเหม็น ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพทั้งของจนท.และปชช. โดยเฉพาะไม่มีการเว้นระยะป้องกันโรคโควิด ไม่มีประกาศแจ้งวิธีการติดต่อภายในหน่วยงาน ปชช.ที่ไม่เคยไปจะไม่ได้รับความสะดวกในการติดต่อไม่นับที่จนท.หน้าบึ้งกันทุกคนแล้ว ทำไมปชช.จะต้องถูกรีดค่าเข้า เพื่ออะไร
นอกจากนี้หากจะนำรถเข้าไปขนสินค้ายังต้องจ่ายค่านำรถเข้าอีกคันละเป็นร้อย หากไม่นำรถเข้าต้องเดินผ่านเข้าจุดตรวจยิ่งกว่าเขตทหารห้ามเข้าเสียอีก
สร้างความลำบากและยุ่งยากเกินควร ทำให้ปชช.จึงไม่สามารถไป”ออกของ”ได้เองจำต้องใช้บริการของบริษัทชิปปิ้ง
ฃึ่งเปิดตรวจสินค้าร่วมกับจนท.ศุลกากรจึงรู้ว่าภายในกล่องสินค้าคืออะไร เป็นเหตุให้สิ่งของในนั้นอาจหายไป
การเอาผิดจึงต้องฟ้องเอาผิดทั้งบริษัทชิปปิ้งและจนท.ศุลกากร แม้ว่านาย พชร อนันต์ศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร คนใหม่ จะประกาศนโยบายเกี่ยวกับ “คุณธรรมและความโปร่งใส ไร้ทุจริต”ถึงกับตั้งเป็นงบประมาณประจำปี และ แต่งตั้ง นาย วิชา มหาคุณเป็นประธานคณะกรรมการจริยธรรมประจำกรมศุลกากร แล้วก็ตาม ยังไม่อาจแก้ปัญหาในศุลกากรให้รอดพ้นจากการส่อทุจริตไม่ชอบ ไปได้
อย่างไรก็ตามกรมศุลกากรมีภาระหน้าที่ในการตรวจค้นสิ่งของเข้าและออกในประเทศวันหนึ่งๆหลายหมื่นชิ้น กรมศุลกากรอ้างว่าเป็นการสุ่มตรวจแต่ความจริงคือการเปิดช่องให้มีการใช้ดุลยพินิจไปในทางไม่ถูกต้องมากกว่า ฃึ่งกรมศุลกากรควรจะแก้ก.มให้สอดคล้องกับความจริง กรณีนำเข้าสินค้าเกิน1500 บาท อย่างนี้ก็ควรแก้ไข เพราะสินค้ามันขึ้นราคาตามวันเวลาไปแล้ว เป็นต้น
ฃึ่งวีคลี่นิวส์จะได้ติดตามนำมาเสนอต่อไป
ใส่ความเห็น