วีคลี่นิวส์ตั้งข้อสังเกตก่อนหน้า”รร.โกงลูกค้าไม่พอ ยังโกงรัฐ”จนต้องระงับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน

ตามที่วีคลี่นิวส์ได้แฉโรงแรมดังโปรโมชั่นขายอาหารแก่ลูกค้าทั่วไปแล้ว เมื่อถามถึงเราใช้สิทธิเที่ยวกัน รร.ชื่อดังแถวราชประสงค์แจ้งว่าต้องคิดจากราคาเต็มแล้วจึงใช้สิทธิได้ฃึ่งวีคลี่นิวส์เห็นว่าเป็นการเอาเปรียบลูกค้าอย่างไม่ถูกต้อง

หลังจากเสนอข่าวไปแล้ว วีคลี่นิวส์ได้ลองกดเข้าไปสมัครเพื่อใช้สิทธิดังกล่าวและพบว่ายังมีสิทธิเหลืออยู่ประมาณล้านกว่าสิทธิแต่พลันที่มีการหยุดยาวพบว่าสิทธินั้นเหลืออยู่ประมาณสองพันสิทธิ จึงเป็นที่ผิดสังเกต จากนั้นจึงมีการตรวจสอบ

เมื่อวานก่อนนี้ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แถลงข่าวด่วนถึงกรณีการได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำทุจริตในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ว่า ขณะนี้ ททท.ได้ร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทย เข้าไปตรวจสอบพฤติกรรมและการทำธุรกรรมของโครงการนี้ พบการกระทำที่เข้าข่ายความผิดถึง 6 รูปแบบเป็นอย่างต่ำ เช่น การใช้ส่วนต่างคูปองในโครงการ การตั้งราคาห้องพักสูงเกินจริง เปิดให้จองที่พักแต่ไม่ได้ไปพักจริง หรือการเปิดให้จองพักแต่โรงแรมยังไม่ได้เปิดให้บริการ

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า มีโรงแรมต้องสงสัยรวม 312 แห่ง และร้านค้าทุจริตเรื่องคูปองกว่า 202 แห่ง ส่วนมากเป็นโรงแรมขนาดเล็กๆ ในพื้นที่ต่างจังหวัด รวมไปถึงมีโรงแรมขนาดใหญ่บางแห่งด้วย โดย ททท.มีรายชื่อโรงแรมและร้านอาหารต้องสงสัยทั้งหมดแล้ว จากนี้จะทำการตรวจสอบทุกกรณีโดยเร็วที่สุด หากพบว่า โรงแรมและร้านอาหารใดทำผิด หรือทุจริตจริง จะต้องถูกถอดออกจากโครงการ และขึ้นบัญชีดำ พร้อมกับดำเนินคดีทั้งแพ่ง และอาญา โดยใช้กฎหมายที่มีโทษขั้นสูงสุด

ผู้ว่าท.ท.ท กล่าวต่อว่า ตนได้รายงานเรื่องนี้ให้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา รับทราบแล้ว หากนายกรัฐมนตรี สอบถามในที่ประชุมครม.ทางรมว.การท่องเที่ยวฯ ก็มีข้อมูลพร้อมรายงานแล้ว โดยการตรวจสอบจะทำโดยเร็วที่สุด ส่วนการเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ วันที่ 16 ธ.ค.นี้ ที่จะเปิดให้อีก 1 ล้านสิทธิ ก็คงต้องเลื่อนไปก่อน เพื่อดูผลสรุป และน่าจะกำหนดวันให้ลงทะเบียรับสิทธิใหม่ได้อีกครั้ง ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ เราเที่ยวด้วยกัน