สถานการณ์เผาป่าในเชียงรายส่งมลพิษเกิน100 ถึงเวลาที่ต้องแก้ปัญหาเรื่องบุกรุกป่าเพื่อครอบครองทำประโยชน์เสียที

วันนี้มีรายงานสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กของจังหวัดเชียงรายประจำวันที่ 1 เมษายน 2563 ต้นเดือน พบค่าเฉลี่ยPM2.5 เกิน100 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ทำให้คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพทันทีทั่วเชียงราย 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเผาป่าเกิดขึ้นจำนวนมากและเป็นมาตลอดทุกปี เพราะขาดความเอาจริงในการแก้ไขปัญหา แม้ผู้ว่าราชการจว.เชียงรายจะออกประกาศและให้รางวัลนำจับแต่ปัญหากลับรุกมากขึ้น กลายเป็นเรื่องปกติของปชช.ที่ต้องทนสูดดมพิษวันแล้ววันเล่า. สาเหตุหนึ่งคือการที่รัฐเพิกเฉยปล่อยให้คนบุกรุกที่ป่าทำกินโดยไม่ห้ามปราม เพราะข้าราชการบางคนในท้องที่ถือว่าเป็นเรื่องทำมาหากิน การเผาป่าคือการไม่ต้องตัดหญ้าที่รกเมื่อเผาป่าเสร็จสามารถปลูกพืชเกษตรลงได้เลย

ดังนั้นการแก้ปัญหาคือการที่พื้นที่ใดหากมีการเผา พื้นที่นั้นจะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการเกษตรหรืออยู่อาศัยอีกต่อไป

รัฐต้องยึดคืน ทันที เพื่อที่ชาวบ้านเหล่านั้นจะได้ช่วยกันดูแลรักษาป่า อีกทั้งหากมีการบุกรุกป่าต้นน้ำลำธารต้องจับกุมทันที ไม่ว่าคนนั้นจะใหญ่โตเพียงใด 

แต่จว.เชียงรายนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชการเปิดทางให้บุกรุกป่ากันอย่างสบายไม่มีการเตือน จับ ปรับ ทุกคนจึงเผาป่าเพื่อใช้ประโยชน์บนที่ดิน โดยไม่สนใจคำประกาศของผว.แต่อย่างใด 

ฃึ่งเป็นที่น่าตกใจมากว่า เชียงรายมีเขาหัวโล้นระดับต้นน้ำลำธารมากมายได้อย่างไรโดยไม่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม 

สำหรับการรายงานสภาวะอากาศเชียงรายวันนี้คือ 

1.สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในภาพรวมของจังหวัดเชียงราย ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงณ เวลา 09.00 น. วันที่  1 เมย. 63 

    1.1 สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศอำเภอเมืองเชียงราย ค่าเฉลี่ย PM2.5 วัดได้ 119 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ

    1.2 สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศอำเภอแม่สายค่าเฉลี่ย PM 2.5 วัดได้ 197 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ

2.สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ของจังหวัดเชียงราย วันที่ 31 มีค.63 

    2.1 ข้อมูลจากดาวเทียมระบบ MODIS  พบจุดความร้อนจำนวน 36 จุดใน 9 อำเภอดังนี้

1. แม่จัน 11 จุด

2. เมืองเชียงราย 9 จุด

3. ขุนตาล 4 จุด

4. แม่ฟ้าหลวง 4 จุด

5. แม่สรวย 4 จุด

6. เชียงแสน 1 จุด

7. พญาเม็งราย 1 จุด

8. แม่ลาว 1 จุด

9. เวียงแก่น 1 จุด

โดยจุดความร้อนเพิ่มขึ้นจากวันก่อนจำนวน 27 จุด  รวมจุดความร้อนสะสมระบบModis  ตั้งแต่1 มค.-31 มีค.63 จำนวน 509 จุด 

    2.2 ข้อมูลจากดาวเทียมระบบ VIIRS พบจุดความร้อนจำนวน 149 จุดใน 13 อำเภอดังนี้

1. ขุนตาล 26 จุด

2. แม่จัน 24 จุด

3. เมืองเชียงราย 23 จุด

4. แม่ฟ้าหลวง 13 จุด

5. เทิง 12 จุด

6. แม่สรวย 12 จุด

7. พญาเม็งราย 10 จุด

8. เวียงแก่น 10 จุด

9. พาน 5 จุด

10. เวียงป่าเป้า 5 จุด

11. เชียงแสน 4 จุด

12. ป่าแดด 3 จุด

13. เชียงของ 2 จุด

โดยจุดความร้อนลดลงจากวันก่อนจำนวน 32 จุด รวมจุดความร้อนสะสมระบบ VIIRS ตั้งแต่ 1 ม.ค.-31 มีค.63 จำนวน  4,537 จุด

จากข้อมูลภาพถ่ายโดย สทอภ. (GISTDA) จากดาวเทียมระบบ  VIIRS, Modis และข้อมูลลม วันที่ 31 มีนาคม 2563 พบว่า

 – จุดความร้อนในประเทศเมียนมาร์และลาวสูงอย่างต่อเนื่อง

 –  จุดความร้อนกระจุกตัวบริเวณทั่วภาคเหนือ มีจุดความร้อนทั้ง 9 จังหวัดภาคเหนือ1,137 จุด ลดลงจากวันก่อน 326 จุด พบจุดความร้อนมากในพื้นที่  ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนฯ และพื้นที่อื่นๆ โดยจุดความร้อนพบมากที่ จังหวัดน่าน 280 จุด เชียงใหม่ 247 จุดน่ และเชียงราย 149 จุดตามลำดับ

 – จากภาพดาวเทียม สามารถสังเกตเห็นกลุ่มหมอกควันขนาดใหญ่ปกคลุมพื้นที่ภาคเหนือ ประเทศเมียนมาร์และประเทศลาวโดยจังหวัดเชียงรายได้รับอิทธิพลลมมาจากทิศตะวันตกและลมใต้ซึ่งพัดพากลุ่มหมอกควันจากพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาสะสมในพื้นที่ประกอบกับอุณหภูมิที่ผกผันในระดับล่าง อากาศยกตัวได้น้อยในช่วงค่ำถึงเช้าและมีจุดความร้อนในพื้นที่บางส่วน ทำให้ปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กและค่าคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงรายยังคงเกินค่ามาตรฐาน โดยเฉพาะที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศอ.แม่สาย ซึ่งในพื้นที่อ.แม่สายไม่มีจุดความร้อนเกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่มีกระแสลมพัดกลุ่มหมอกควันมาจากพื้นที่ใกล้เคียงและจากประเทศเพื่อนบ้านที่เกิดจุดความร้อนเป็นจำนวนมากจึงทำให้ค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กและค่าคุณภาพอากาศสูงขึ้นผิดปกติอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้สามารถติดตามคุณภาพจังหวัดเชียงรายได้ที่http://air4thai.pcd.go.th/webV2/   https://yakkaw.com/  และhttps://chiangrai.cmuccdc.org/

หรือ Application Air4Thai , Application Airvitual และ Application ยักษ์ขาววัดฝุ่น

อนึ่ง สำหรับค่าคุณภาพอากาศจากApplication Airvitual และ Application ยักษ์ขาววัดฝุ่น ยังมีความคลาดเคลื่อนจากมาตรฐานอยู่ แต่สามารถใช้เป็นข้อมูลแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบเพื่อเฝ้าระวังสุขภาพเบื้องต้น หากจะใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงการรายงานทางวิชาการควรใช้ข้อมูลจาก Application Air4Thai ของกรมควบคุมมลพิษเป็นหลัก

3.จังหวัดเชียงรายได้มีประกาศห้ามการเผาในที่โล่งทุกชนิด 60 วันปลอดการเผา ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายตั้งแต่วันที่ 22 กพ.-21 เมย. 63และกำหนดมาตรการลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กโดยนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้ให้อำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องฉีดพ่นละอองน้ำ ฉีดล้างถนน อาคาร  รดน้ำต้นไม้ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศทั่วทุกพื้นที่ตลอดจนเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดรวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายและมาตรการต่างๆอย่างจริงจัง

4.การดำเนินการ : จัดชุดปฏิบัติการป้องกันและควบคุมไฟป่าร่วมระดับตำบลลาดตระเวนเน้นการป้องปรามและการประชาสัมพันธ์ไม่ให้มีการเผาในที่โล่ง การจัดทำแนวกันไฟในพื้นที่เสี่ยง และการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย  โดยอำเภอเป็นแกนหลักในการวางแผน ระดมกำลัง และปฏิบัติการในระดับพื้นที่

5.จังหวัดเชียงรายได้ออกประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5)ให้ประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพอนามัยโดยให้ข้อปฏิบัติเพื่อลดผลกระทบจากมลพิษหมอกควัน และสวมอุปกรณ์ป้องกันตนเอง รวมทั้งได้จัดเตรียมสถานที่ปลอดภัยจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก( Safety Zone )เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินไว้แล้วโดยให้ประชาชนเข้าใช้บริการได้ ณ ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงและองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายซึ่งประชาชนสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมจากApplication ยักษ์ขาววัดฝุ่น

6. จังหวัดเชียงรายได้ออกประกาศขอความร่วมมือประชาชนในการเข้าออกพื้นที่ป่าตั้งแต่วันที่ 10 มีค.-21 เมย.63 โดยให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้และอำเภอในท้องที่ตรวจตราควบคุมการเข้าพื้นที่ป่าอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการเผาในพื้นที่ป่าอย่างเด็ดขาด

7. จังหวัดเชียงรายได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์  และถึงเจ้าแขวงบ่อแก้ว ประเทศลาวที่มีแนวชายแดนติดต่อกัน โดยขอความร่วมมือประชาสัมพันธ์และรณรงค์เน้นย้ำให้ประชาชนลดการเผาทุกชนิดเพื่อลดปัญหาหมอกควันข้ามแดน และได้ประสานการประชุมเพื่อดำเนินงานแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันตามแนวชายแดนร่วมกัน ดังนี้

7.1 นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย พร้อมด้วย พล.ต.อำนาจ ศรีมาก ผบ.ควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและฝุ่นควัน กองทัพภาคที่ 3 ส่วนแยก จ.เชียงราย พบปะกับนายเมียน ไนจ์ ผวจ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์ เพื่อหารือการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันตามแนวชายแดน

7.2 ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร รองผวจ.เชียงรายและคณะ ประชุมร่วมกับรองผวจ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์

7.3 พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี ผบ.กองกำลังผาเมืองและคณะ ประชุมร่วมกับผบ.บก.ยศ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์

7.4. นายประสงค์  หล้าอ่อน นายอำเภอเชียงแสน จชร. และคณะ ประชุมร่วมกับเจ้าเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ประเทศสปป.ลาว