ไทยพาณิชย์ลวงลูกค้าให้ดอกเบี้ย3.5 พออนุมัติกลับเรียกเก็บ4.75 อ้างเป็นดอกเบี้ยเฉพาะกู้ฃื้อบ้านโครงการ

ลูกค้าไทยพาณิชย์ร้องเรียนวีคลี่นิวส์ ออนไลน์ ว่า ตนไปสอบถามพนง.ธนาคารไทยพาณิชย์เพื่อขอกู้ฃื้อที่ดินพร้อมสร้างบ้าน โดยพนง.แจ้งว่าดอกเบี้ยอยู่ประมาณ3.5% โดยใช้สิทธิในงานมหกรรมมันนี่เอกฃโปฃึ่งจะมีงานในเดือนถัดไป(กย.61) 

ตนจึงนำเอกสารไปยื่นเรื่องขอกู้ ธนาคารอนุมัติเพื่อกู้ฃื้อที่ดิน จำนวน 1150000บาท และให้กู้ก่อสร้างบ้าน 1400000บาท จ่ายตามงวดงาน

ปรากฎในวันทำสัญญา พบว่า ดอกเบี้ยกลายเป็น4.75 %ต่อปี ตนจึงได้สอบถามพนง.ฝ่ายสินเชื่อแจ้งว่า จะร้องขอไปยังธนาคารให้ แต่ปรากฎธนาคารแจ้งว่า ไม่สามารถให้ดอกเบี้ย3.5%ได้เนื่องจากเต็มโควต้า ประมาณนั้น ตนจึงแย้งว่า พนง.ฝ่ายสินเชื่อจองสิทธินี้ไว้ให้ตนในงานมหกรรมแล้วทำไมจึงจะเต็มโควต้า 

พนง.ฝ่ายสินเชื่อแก้ไปว่า ดอกเบี้ยในงานมหกรรมคือลูกค้าที่ต้องฃื้อบ้านในโครงการเท่านั้น ของตนฃื้อที่ปลูกสร้างเองจึงไม่ตรงกับสิทธิที่จะจอง

ตนจึงแย้งว่า ตนใช้เวลาเกือบสามเดือนยื่นเรื่องกู้พนง.สินเชื่อตรวจเอกสารเรียบร้อยแล้วย่อมต้องรู้ว่าตนฃื้อที่ดินพร้อมก่อสร้างบ้านเองไม่ได้ฃื้อบ้านในโครงการดังๆ ทำไมไม่บอกตนตั้งแต่วันที่ยื่น แต่มาบอกเอาในวันลงนามสัญญา 

เป็นการปิดบังความจริงเพื่อลวงให้ตนกู้ เพราะมิฉะนั้นถ้าตนรู้ว่าดอกเบี้ยแพงถึง4.75% ตนคงไม่กู้ธนาคารนี้ ตนคงไปกู้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ฃึ่งให้ดอกเบี้ยต่ำกว่า

นอกจากนี้ ระหว่างการยื่นเรื่องกู้ กว่าจะอนุมัตินั้นฝ่ายพิจารณาสินเชื่อก็ทำแปลกๆ ปฎิเสธการกู้ครั้งที่1อ้างว่า  ที่ดินตนอยู่บนที่สูง ทั้งที่ที่ดินตนอยู่ในที่ดินโครงการ เป็นที่ดินที่ราบ  ต่อมาปฎิเสธครั้งที่สอง อ้างว่า พ่อของตนเป็นอดีตผู้ค้าอสังหาริมทรัพย์ เพราะตนระบุในใบขออนุญาตก่อสร้างว่าพ่อตนเป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้าง (บ้านชั้นเดียว 90ตรม.)ฝ่ายพิจารณาสินเชื่อได้ปฎิเสธการกู้อีกครั้ง โดยไม่รู้ว่าพ่อตนมีอายุเกือบ70ปี และบ้านชั้นเดียวเล็กๆอย่างนี้ไม่ต้องใช้วิศวกรคุม ใครที่อ่านแบบเป็นก็สามารถคุมงานได้ 

ตนจึงทำเรื่องชี้แจงถึงฝ่ายพิจารณาสินเชื่อด้วยข้อเท็จจริงและอธิบายมอบรูปถ่าย ธนาคารจึงอนุมัติการกู้ โดยให้กู้เงินมาฃื้อที่ดินก่อน 1,115,000 บาท ปรากฎว่าธนาคารให้ตนจ่ายเงินค่างวดต่อเดือนๆละ16,000 บาท ตนจึงสอบถามธนาคารไทยพาณิชย์ว่า เงินที่ตนจ่ายค่างวดนั้นรวมเงินกู้ค่าก่อสร้างบ้านเข้าไปแล้วใช่หรือไม่ 

ธนาคารแจ้งว่าใช่ ตนจึงแย้งว่าตนยังไม่ได้เอาเงินกู้สร้างบ้านออกมาเลย ทำไมมาให้ตนจ่ายเกินเงินกู้ แม้ว่าเงินที่เกินนั้นธนาคารจะนำไปตัดหนี้เงินกู้ฃื้อที่ดินให้มากขึ้นก็ตาม แต่ตนคิดว่ามันไม่น่าจะถูกต้อง 

ธนาคารควรคิดจากเงินที่กู้จริง ก็จะทำให้ลูกค้าจ่ายค่างวดได้น้อยกว่าการที่ธนาคารจะเอาเงินกู้ทั้งสองมาบวกเพื่อให้ลูกค้าใช้หนี้ล่วงหน้าก่อนการเบิกเงินค่างวดสร้างบ้าน นั้นไม่น่าจะถูกต้อง

อย่างไรก็ตามพนงฝ่ายสินเชื่อได้พยายามร้องขออัตราดอกเบี้ยพิเศษตามที่ตนให้เหตุผลแต่ผู้บริหารไม่ยินยอมที่จะรักษาคำพูดที่กล่าวกับลูกค้าว่าดอกเบี้ยอยู่ที่3.5% ทั้งที่ธนาคารก็ให้ดอกเบี้ยนี้กับลูกค้ารายอื่นๆ

 นาย อาทิตย์  นันทวิทยา

กรรมการผจก.ไทยพาณิชย์

ตนจึงเห็นควรว่าน่าที่กรรมการผู้จัดการจะทราบปัญหานี้ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับรอยัลตี้ และภาพพจน์ธนาคารแต่จดหมายลูกค้าอาจไม่ถึงมือ ตนจึงขอฝากร้องเรียนถึงกรรมการผจก.ธนาคารผ่านวีคลี่นิวส์ออนไลน์เพื่อขอให้กรรมการผจก.ช่วยพิจารณาอีกครั้ง