. เหตุดีให้ผลดี เหตุชั่วให้ผลชั่ว ธรรมทั้งหลายไหลมาแต่เหตุ

อะไรเป็นตัวเหตุ
ตัวเหตุคืออวิชชา ความโง่นั่นแหละมันไหลมา

อะไรเป็นอวิชชา
จิตโง่นั่นแหละเป็นอวิชชา

อะไรเป็นสนิมของอวิชชา
มันนั่นแหละมันเป็นสนิมของมันเอง
เหมือนกันกับเหล็ก เหมือนกันกับดาบและมีด
ครั้นไม่ลับมันอยู่นาน ๆ ใครเอามาใส่ล่ะ สนิมน่ะ มันก็เกิดขึ้นของมันเอง มันขนเอามาเอง หมักหมมทำให้เกิดสนิม จนกว่าจิตดำจิตมืดน่ะ มันเองนั่นแหละเป็นสนิมของมัน

เมื่อทำสนิมให้มันออกจากดวงจิตนี่แล้ว จิตฺตัง ทันฺตัง สุขาวหัง

ให้เป็นผู้หมั่นพยายามหัดทรมานสั่งสอนมัน อย่าไปปล่อยตามใจมัน มีความรู้เท่ามัน
อย่าไปตามใจมัน หัดให้มันอยู่ในอำนาจของสติ สติควบคุม

ขัดไปขัดมามันก็ขาวหรอก จิตขาว จิตสะอาด จิตผ่องแผ้วนั่นแหละ
มนสาเจ ปสนฺเนน ภาสติวากโรติวา จิตเจ้าของควบคุมขัดเกลาให้ดีแล้ว จิตผ่องแผ้วดีแล้ว จะพูดอยู่ก็ตามมีความสุขเท่านั้น จะทำงานทำการอยู่ก็ตามมีความสุขทั้งนั้น

ตโตนํ สุขมเนวติ มีแต่ความสุขเท่านั้นแหละติดตามผู้นั้น มีแต่ความสุขทั้งหมด ทุกอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน

ฉายา ว อนุปายินี เหมือนกันกับเงาเทียมตนคนไป ไม่ละไม่เว้นความสุขนั้น

จากหนังสือ อนาลโยวาท หลวงปู่ขาว อนาลโย หน้าที่ ๒๓๘

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
๖๑.๐๗.๐๘