สมาธินี่ เราจะต้องเอาใจเราทำ ใจนี่สั่งกาย สั่งให้กายทำสมาธิ

ทำสมาธินั่นจะต้องหาโอกาสแก้ไขอารมณ์

อารมณ์ที่มันเกิดขึ้นนี้นั้นจำนวนนับไม่ถ้วน พอฝังลงไปที่จิตแล้วก็พอกพูน
อารมณ์นี่จะติด ไม่ใช่ว่าเรามีอารมณ์แล้วแล้วกัน
มีอารมณ์แล้ว อารมณ์เหล่านั้นทำให้เราติด ติดอารมณ์นั่น สนใจอารมณ์นั่น ก็กลายเป็นอุปาทาน

เมื่อกลายเป็นอุปาทานก็ปิดหูปิดตามิดขึ้นทุกที ๆ
ถ้าหากว่าไม่ทำสมาธิ ขจัดอารมณ์บ้าง เราก็จะมืดมิดมองอะไรไม่เห็น

แต่ว่าพอมาทำสมาธิเข้าก็มากระเทาะอารมณ์ที่เป็นอุปาทานให้มันลดระดับลงน้อยลงไป ๆ พอน้อยลงไปแล้วเราก็จะเห็น เราก็จะมีดวงตาเห็นธรรม

ดวงตาเห็นธรรมไม่ยาก ถ้าหากท่านทั้งหลายทำถูกหนทาง แล้วเราจะได้ดวงตาเห็นธรรม

จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ ๙/ธรรมะฟ้าสาง หน้าที่ ๒๑
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
๖๑.๐๕.๒๑