ความสามัคคีนี้คือการละทิฐิมานะ…จริงหรือ อย่างไร
ความสามัคคีนี้คือการละทิฐิมานะ
การที่ถือทิฐิมานะนั่นคือความแตกสามัคคี
ใครจะมาใหญ่กว่าฉันไม่ได้ ฉันจะใหญ่กว่าทุกคน มันเป็นไปไม่ได้
คนเรามันก็มีอิสระที่ภายในจิตใจอยู่ด้วยกันทุกคน เพราะฉะนั้นเราต้องอาศัยอิสระนี้แหละซ่อมร่างกายของเรา จิตใจของเราให้มีความมั่นคง
การที่จะซ่อมจิตใจของเราให้มั่นคงได้นั้น ก็อยู่ที่สมาธิ
สมาธิที่จะเกิดขึ้นมาได้นั้นก็อยู่ที่คำบริกรรม
คำบริกรรมจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราได้บริกรรมพุทโธขึ้นมา
เมื่อเราบริกรรมพุทโธขึ้นมาแล้วจิตมันก็เป็นหนึ่งมันก็ไล่อารมณ์หนีไป
เมื่ออารมณ์หนีไปจิตใจก็ผ่องใส สว่าง เย็น สบาย อันนี้จะไปรวมกันเป็นพลังจิต
เมื่อไปรวมกันเป็นพลังจิตแล้ว พลังจิตอันนี้ก็จะไปควบคุมจิตใจของเราอีกทีหนึ่ง ไม่ให้เรานี้ต้องไปผูกพยาบาทอาฆาตจองเวรซึ่งกันและกัน
เราอยู่ด้วยกันเราเป็นมนุษย์ร่วมชาติ ก็หมายความว่าเกิด แก่ เจ็บ ตาย เราทั้งหลายก็ต้องเกิดแก่เจ็บตายเหมือนคนอื่นเขาเหมือนกัน
แต่ว่าในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่นี่ เราต้องสร้างความดีไว้ให้มากที่สุด
ถ้าเราสามารถสะกดจิตของเราได้ด้วยสมาธิแล้ว ปัญญาจะเกิดขึ้นแก่ตัวของเราเอง
จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ ๙ หน้าที่ ๕๗
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)
สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
๖๑.๐๕.๑๓
ใส่ความเห็น