พระพุทธเจ้าตรัสสอนให้พวกเราว่า อัตตา หิ อัตตะโน นาโถ ตนเท่านั้นจะเป็นที่พึ่งของตนได้
โก หิ นาโถ ปะโร สิยา ใครเล่าจะมาเป็นที่พึ่งของเรา

ทำไมถึงว่า ตนเป็นที่พึ่งของตน

คำที่ว่าตนเป็นที่พึ่งของตนนั้นน่ะมันอยู่ว่าลมหายใจ ใครจะมาหายใจแทนเราไม่ได้ เราต้องหายใจเอง อันนี้ตนเป็นที่พึ่งของตนโดยแท้
แล้วทีนี้เวลาเราจะตายก็ไม่มีใครที่จะเป็นที่พึ่งได้นอกจากหมดลมไป
เมื่อตายหมดลมไปก็เหลือแต่ดวงจิตและวิญญาณ ทีนี้ก็เป็นที่พึ่งของตนโดยแท้ มีบุญก็ตาม มีบาปก็ตาม ก็จะต้องได้รับผลของกรรมอันนั้นที่ตนได้ทำลงไป

เพราะฉะนั้นคำที่ว่าตนเป็นที่พึ่งของตนนั้นหมายถึงเราหายใจเอง เรารับประทานอาหารเอง อย่างนี้เป็นต้น ใครจะทำแทนเราไม่ได้
แล้วบาปบุญก็ดี เมื่อเราทำบาปไปแล้วเราก็ต้องไปรับความทุกข์เมื่อเราทำบุญไปแล้วก็ได้รับความสุข
แล้วใครล่ะจะเป็นที่พึ่ง ไม่มีใครเป็นที่พึ่ง นอกจากตัวเราจะต้องไปชดใช้กรรมบ้าง หรือไปเสวยความสุขบ้าง เหล่านี้เป็นต้น

อย่างไรก็ตามการทำสมาธิถือว่าเป็นจุดสำคัญของโลก
ถ้าหากว่าโลกนี้มองเห็นว่าสมาธิเป็นเรื่องสำคัญขึ้นมาเมื่อไหร่ โลกก็จะได้รับความสุขกันถ้วนหน้า

เพราะอะไร
เพราะว่าเมื่อหันมาทำสมาธิแล้ว ก็สามารถที่จะผลิตพลังจิตให้แก่ตนเองได้
เพราะว่าการผลิตพลังจิตให้แก่ตนเองนั้นไม่มีใครเขาช่วยเราได้ นอกจากตัวเราจะทำสมาธิเอง
เดินจงกรมเอง นั่งสมาธิเอง แล้วพลังจิตมันก็เกิดขึ้น

จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ เล่มแรก
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน

๖๑.๐๓.๒๑