ในตัวของเรามีแล้ว มีอะไร มีทาน มีศีล แล้วก็ยังมีภาวนา ท่านให้ทำให้ครบ คนหนึ่งนี่ทำให้ครบ ให้มีทั้งศีล สมาธิ และปัญญา

ถ้าทำไม่ครบก็ได้อานิสงส์ไม่ครบ

เพราะการให้ทานหมายถึงโภคสมบัติ
การรักษาศีลหมายถึงชีวิต
การทำปัญญาหมายถึงความฉลาด

ความมีชีวิต ความที่มีโภคทรัพย์ ความที่มีปัญญาจะต้องเพียบพร้อมในตัวของเรา

การที่เรามีศีลนั้นเรียกว่ากัลยาณธรรม ธรรมมงคลที่สวยงาม
คนนั้นจะสวยงามได้เพราะคุณธรรม
เมื่อคุณธรรมทำให้เกิดความสวยงามมันเป็นเครื่องประดับ

พระพุทธเจ้าตรัสว่าศีลนี้เป็นเครื่องประดับที่มีค่า

ถึงเครื่องประดับทั้งมวลจะเป็นเพชรนิลจินดา จะเป็นทองอะไรต่าง ๆ ที่สวมใส่ตัวของเรานั้นถือว่าเป็นเครื่องประดับธรรมดา
แต่ว่าถ้าบุคคลผู้นั้นมีศีลแล้วไม่ธรรมดา ก็เป็นคนที่อยู่ในจำนวนที่ได้เติมให้เต็มให้สมบูรณ์

เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าจึงยกย่องผู้ที่มีศีลว่า
สีเลนะ สุคะติง ยันติ ศีลนี้ทำให้เกิดความสุข
สีเลนะ โภคะสัมปะทา ศีลนี้ทำให้เกิดโภคทรัพย์
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ศีลนี้จะนำท่านทั้งหลายไปสู่พระนิพพานต่อไป

ความไม่ประมาททั้งหลายนี่ต้องอยู่ที่ตัวเรา คือว่าเมื่อเราสำรวจตัวเราได้แล้ว เราก็ต้องทำตัวของเราให้เกิดขึ้น คือการให้ทาน การรักษาศีล การภาวนา ทำให้เกิดขึ้นให้ได้
เมื่อทำให้เกิดขึ้นได้แล้วนี่ ไม่ใช่ว่าเป็นประโยชน์ต่อตัวเองเท่านั้น ยังเป็นประโยชน์ต่อหมู่ชน

จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ เล่มแรก หน้าที่ ๙๓
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน

๖๑.๐๓.๒๒