มงคลชีวิตนี่เทวดาเขาแสวงหากันมาตั้ง ๑๒ ปี ยังไม่เจอะ มาเจอะที่คำสอนของพระพุทธเจ้านี่เองว่าสิ่งนี้เป็นมงคล

ในข้อที่ว่า อะนากุลา จะ กัมมันตา การงานไม่อากูลคือไม่ทอดทิ้งการงานนั้น บางทีก็ทำไปได้ครึ่งเดียวก็ทิ้ง บางทีทำไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ทิ้ง

ถ้าการงานยังเป็นอย่างนั้นอยู่ความสำเร็จในชีวิตก็ยาก

แม้กระทั่งการทำสมาธิหรือการมาทำบุญ
ถ้าทำครึ่ง ๆ กลาง ๆ มันก็ไม่ได้ผลเต็มเม็ดเต็มหน่วย

ทำแล้วต้องทำให้เต็มที่

ในคำที่ว่า กะยิรา เจ กะยิราเถนัง ทัฬหะเมนัง ปะรักกะเม
กะยิรา เจ กะยิราเถนัง หมายความว่าทำอะไรต้องทำให้จริง ๆ

เหมือนกันกับบุคคลผู้ที่ไปจับต้นหญ้าคา
ต้นหญ้าคานั้นถ้าหากว่าจับไม่แน่นแล้วรูดมามือก็บาด ต้นหญ้าคาก็ไม่ขาด
ถ้าหากว่ากำให้แน่นแล้วดึงมาต้นหญ้าคาก็ขาด มือก็ไม่ขาดด้วย
อันนี้ท่านเปรียบเทียบว่า อะนากุลา จะ กัมมันตา

เพราะฉะนั้นในมงคลนี่ที่พระพุทธเจ้าตรัสนี่ไม่ใช่ตรัสแต่ธรรมะขั้นสูง พระองค์ยังตรัสขั้นพื้นฐานให้มนุษย์ทั้งหลายอยู่ร่วมกันด้วยความเป็นสุข

จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ เล่มแรก หน้าที่ ๘๔
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน

๖๑.๐๓.๒๐