จากกรณีความทุกข์ของ”ป้า”ปชช.ที่ถูกกรุงเทพมหานครยุคนาย สุขุมพันธ์ บริพัตร เป็นผู้ว่าฯดูแลทุกข์สุขของปชช.แต่กลับหาประโยชน์จากการอนุญาตให้มีการเปิดตลาดนัดใหญ่โต สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ผู้อยู่อาศัย รอบข้าง

จนเดือดร้อนถึงขั้นต้องฟ้องศาลปกครองสั่งระงับการเปิดตลาดนัดนั้นแล้วตั้งแต่ปี2553 แต่สำนักงานเขตประเวศเจ้าของพื้นที่กลับเพิกเฉย ปล่อยเหตุการณ์บานปลายมาถึงปี61

นับว่าเขตประเวศไม่เคารพคำสั่งศาลแล้ว วันก่อนผอ.เขตประเวศ ยังออกมาให้ข่าวด้วยความยโสโอหังว่า อุตส่าห์ไม่เอาผิด”ป้า”ที่เอาลวดสลิงมาขึงหน้าบ้าน  ( เพื่อกันไม่ให้รถในตลาดนัดมาจอด) แล้ว ผอ.เขตประเวศ ยังพูดต่อว่า ถ้าเค้าเป็นเจ้าของบ้าน ถ้าทนไม่ไหวกับความจอแจของตลาด ก็ให้คุณป้าเปิดบ้านขายของแข่งซะเลย หรือไม่ก็ขายบ้านย้ายหนี

นี่คือคำพูดของข้าราชการที่ “แดก”ภาษีของปชช.หรือเปล่า

สงสัยคงไม่ เพราะคงทำงานข้าราชการแบบ sideline ส่วนงานหลักคืออะไรคงไม่ต้องบอก เพราะดูจากคำพูดนี้มันชัดเจน สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวของระบบราชการ ในสังกัดกรุงเทพมหานคร อย่างเห็นได้ชัด

นับตั้งแต่พรรคประชาธิปัตย์เข้ามาบริหารกรุงเทพมหานคร มีแต่ความผยองพองขนของข้าราชการยุคนี้ เหมือนวัวที่ลืมตีน ลืมหัวของปชช.ที่เลือกตั้งเข้ามา แม้จะไม่ได้เลือกมาก็ไม่อาจปฎิเสธได้ว่า มีหน้าที่อะไรต่อการอาสาเข้ามารับทำหน้าที่

การปล่อยให้ปชช.ได้รับความเดือดร้อนโดยไม่แก้ไขแต่กลับฃำ้เติมด้วยการให้ผู้เดืดอร้อนต้องไปฟ้องศาลเองนั้น ถือเป็นการปฎิบัติหน้าที่ที่ไม่เหมาะสม ขาดประสิทธิภาพในการทำงานช่วยเหลือแก้ไขบรรเทาความเดือดร้อนของปชช

ยิ่งปล่อยให้ข้าราชการมาทำกร่าง ปล่อยให้มีการหาประโยชน์ ปล่อยให้มีการทุจริต ในองค์กรนี้อย่างมโหฬารมาตลอดแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ คงปฎิเสธไม่ได่ว่าปชช.จะฉลาดที่จะเลือกพรรคนี้เข้ามาบริหารกรุงเทพมหานครอีกหรือไม่

การบริหารงานกรุงเทพมหานครของพรรคประชาธิปัตย์สะท้อนจากคำพูดของผอ.เขตประเวศ “ชั่ว” และ “ทำ” ถึงขนาดนี้สมควรหรือกับการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการเขต

สมควรกับการเป็นนักปกครองนักบริหาร ที่มีหน้าที่ “ผู้อำนวยการเขต”หรือ

นี่ขนาดว่า “ป้า”ถือว่าเป็นผู้มีฐานะยังถูกรังแกได้ถึงเพียงนี้ หากเป็นคนยากจนไม่มีแรงฟ้องศาล ไม่มีแรงต่อสู้ ระบบราชการของกรุงเทพมหานครจะมีความชั่วร้ายจนถึงกับต้องส่งคนไปยิงทิ้งกันหรือเปล่า

น่าเป็นห่วงสังคมข้าราชการแบบนี้

กลั่นแกล้งประชาชนให้ต้องต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ตนเอง

ประชาชนจึงต้องผนึกกำลังช่วยกันขจัด”ข้าราชการทั้งประจำและการเมือง”ให้ทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน

อย่าปล่อยให้ข้าราชการsideline อาศัยประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่ โดยไม่เห็นหัวของประชาชนอีกต่อไปเลย