จับตารัฐทุ่มเงินแสนล้านให้เอสเอ็มอี ไล่น้ำเสียออกจากจากน้ำดี ธพว.พ้นสภาวะฟื้นฟูจริงหรือ
จับตารัฐทุ่มเงินแสนล้านให้เอสเอ็มอี ไล่น้ำเสียออกจากจากน้ำดี ธพว.พ้นสภาวะฟื้นฟูจริงหรือ
นับแต่นาง สาลินี วังตาล อดีตประธานคณะกรรมการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้รับไฟเขียวจากนายกรัฐมนตรีเข้ามาดำรงตำแหน่งจนเกิดเป็นข่าวอื้อฉาวในทางไม่ชอบหลายเรื่องจนต้องลาออกไป อยู่สสว.ตำแหน่งเดียวนั้น
โดยหนึ่งในข้อครหาคือเรื่องการสร้างตัวเลขทางกำไรให้เกิดขึ้นเพื่ออวดฝีมือตนเอง
ปัจจุบันนาย มงคล ลีลาธรรม ก้าวมาเป็นกรรมการผู้จัดการ ข้อครหาเข้ามาในตำแหน่งไม่ถูกระเบียบถูกตรวจสอบเรียบร้อยหรือยัง ไม่ปรากฎผล แต่นาย มงคล ก็บริหารธพว.มาหลายปีแล้ว โดยปีนี้มีแนวร่วมกับนาย สมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และ ประธานคณะกรรมการธพว.
จึงเห็นว่า โอกาสทองของธพว.พุ่งสูงสุด เพราะปกติธพว.จะถูกบริหารโดยคนจากกระทรวงการคลัง แต่ปีนี้นาย สมชายเป็นเพื่อนรักขึ้นหม้อของนายกรัฐมนตรี จึงสามารถบริหารงานธพว.ร่วมกับอุตสาหกรรมได้อย่างสอดคล้องต้องกัน
โอกาสทองนี้ทำให้รัฐขนเงินมาสนับสนุนธพว.และสสว. กันอย่างมากมายผิดสังเกต นับเป็นจำนวนแสนล้าน แต่ผู้ประกอบการต่างบอกว่าเข้าไม่ถึงในสิ่งที่ร้องขอ และ ล่าช้าในการดำเนินการ
ขณะที่ผู้ประกอบการอีกกลุ่มบอกว่ารวดเร็ว มีผลงานขยันขันแข็ง
นั่นอาจเพราะ “เข้าได้ถูกทาง”
วันก่อนคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เห็นชอบให้ธพว.ออกจากแผนฟื้นฟู นั่นหมายถึงว่า ธพว.เคยอยู่ในฐานะวิกฤติจึงต้องฟื้นฟูจากปัญหาหนี้เอ็นพีแอลสูงเกินปกติ รัฐบาลพยายามเอาเงินเข้าฟื้นฟูให้ธพว.
วิธีการที่ทำกันคือ ตัดหนี้เสียออกจากธนาคารด้วยการขายหนี้ให้บุคคลที่สามหรือบริหารสินทรัพย์ แล้วใส่น้ำดีคือเงินภาษีของปชช.อัดเข้าไป เพื่อปล่อยเงินกู้ให้ผู้ประกอบการรายใหม่ผ่อนสักสามเดือน กลายเป็นรายรับดี ไม่มีหนี้เสีย ตัวเลขพุ่งกระฉูดสามารถประกาศต่อสังคมได้ว่า สามารถแก้ปัญหาหนี้เสียจาก 40%เหลือ 16%
อะไรจะเก่งป่านนั้น
สิ่งที่ธพว.ควรจะเก่งนั่นคือ ทำอย่างไรให้ผู้ประกอบการยืนในธุรกิจให้ได้ ไม่ใช่อัดแต่แคมเปญปล่อยกู้ เพื่อหวังตัวเลข ส่วนตัวเลขหนี้เสียค่อยไปว่ากันหลังผู้บริหารหมดอำนาจไปแล้ว
การทุ่มปล่อยสินเชื่อเป็นแสนล้านนับจากนี้ อย่างน้อยต้องจับตาว่าเป็นผู้ประกอบการตัวจริงหรือผู้ประกอบการตามสั่ง
พนักงานธพว.จะเป็นผู้รู้ดีที่สุด ถ้าหัวไม่ส่าย หางจะไม่กระดิก
ก่อนหน้าจึงมีพนักงานธพว.โกงกินกันเป็นว่าเล่น ตั้งแต่ระดับประธานลงมาถึงระดับล่างๆ โดนจับได้ไล่ออกกันเป็นแถวๆ
ก็ไม่รู้ว่ามีใครโดนยึดทรัพย์ ติดคุก หรือธพว.ละเลยทิ้งเฉยไม่ร้องขอให้ตามยึดทรัพย์คืน ไม่เอาผิดจนถึงติดคุก
เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ฝ่ายตรวจสอบทุจริตอย่างปปช.จะทำหน้าที่ แต่ทุกวันนี้ปชช.ก็ไม่เชื่อในปปช.เสียแล้ว
ใครจะตามติดทุจริตในธพว.ถ้าพนง.ธพว.ไม่ร่วมมือกันต่อต้านทุจริตในองค์กร ธพว.ก็ไม่สามารถลบภาพพจน์การทุจริตออกไปได้ แม้ว่าจะมีการก่นด่าพนง.ที่ทนไม่ไหวนำข้อมูลทุจริตมาเปิดเผยก็ตาม
นับจากนี้เงินเป็นแสนล้านสามารถสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับคนอนุมัติได้
ธพว.จึงเป็นแหล่งหาเงินของคนทุจริตได้ง่ายๆแม้ค่าปากถุง ฃึ่งธพว.ไม่เคยประกาศที่จะเอาผิดกับคนพวกนี้อย่างจริงจัง
ขนาดว่ากรรมาธิการการเงิน การคลัง วุฒิสภา สั่งตรวจสอบทุจริตมาตั้งแต่ปี57แล้ว พนง.เหล่านั้นยังลอยนวลนั่งทำงานไปจนกระทั่งปลดเกษียณ แต่ก่อนจะปลดเกษียณก็ยังเป็นมือเป็นเท้ากระทำการที่ปปช.ตรวจสอบความผิดอยู่ขณะนี้
ปัญหาของธพว.กำลังจะวนมาอยู่ที่เดิม นั่นคือการใช้ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี การใช้คนจน มาอ้างหากิน ด้วยการสนับสนุนสินเชื่อ แต่สินเชื่อจริงๆตกอยู่กับผู้ประกอบการพวกตัวเองมากกว่าผู้ประกอบการทั่วไป
การประกาศของคนร.ให้ธพว.หลุดพ้นจากการฟื้นฟู จึงชัดเจนจะมีเงินเข้ามายังธพว.จำนวนมาก
นาย สมชาย หาญหิรัญ รมช.อุตสาหกรรม และ นาย มงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธพว.จึงต้องใช้ความสามารถที่จะไม่ทำให้เกิดเรื่องครหาการทุจริต หลุดออกมา เพื่อแก้ภาพพจน์ที่ผ่านมาของธพว.ให้ได้
แต่แม้ขณะนี้ทั้งสองจะรับรู้เรื่องร้องเรียนของลูกหนี้ธพว.ที่ถูกพนง.ฝ่ายบริหารหนี้กลั่นแกล้งส่อไปในทางไม่ชอบ และ การนำหนี้ไปขายให้บริหารสินทรัพย์อย่างมีเลศนัย แต่ยังนิ่งเฉย ไม่ตรวจสอบ ไม่รื้อฟื้นความถูกความผิด
ย่อมเป็นการละเลยต่อหน้าที่ที่ต้องปฎิบัติ สะท้อนไปได้ถึงจริยธรรมในการบริหารกิจการ
น่าเสียดายยิ่งนัก เพราะขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ เหลาลงไปอาจเป็นบ้องกัญชาได้
ถ้าไม่พิสูจน์ตนเองให้เป็นที่ประจักษ์
พัชรินทร์ พันธวงศ์
ใส่ความเห็น