บุญเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งโลกนี้และโลกหน้า
“ปุญญานิ ปะระโลกัสสะมิง ปะติฏฐา โหนติ ปาณินัง”
บุญเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งโลกนี้และโลกหน้า
เราอย่าไปหวังพึ่งอันนู้นเลย หวังพึ่งอันนี้ หวังพึ่งอันนั้น หวังไปหวังมาประเดี๋ยวก็ไม่ได้สมกับความหวัง
แต่ว่าบุญนั้นจะติดตนตามตัวเราไป เหมือนกับเงาติดตนตามตัวเราไปฉันนั้น
อย่างไรก็ตามการสร้างบุญสร้างกุศลต่าง ๆ เหล่านี้มันก็มีอุปสรรคขัดข้องต่าง ๆ ที่จะมาป้องกันเขา เรียกว่าพวกมาร
เพราะฉะนั้นพวกมารทั้งหลายนี้เราจะต้องมีความอดทน
เมื่อมีความอดทนแล้วชีวิตของเรานี้ก็จะอยู่ไปได้ด้วยบุญด้วยกุศล
เมื่อเราอยู่ไปด้วยบุญด้วยกุศลแล้วชีวิตของเรามันก็สมบูรณ์ ไม่เสียทีที่เกิดมา
ถ้าหากว่าสร้างบาปสร้างกรรมอะไรต่าง ๆ ไปแล้วไปตกนรกมันก็ไม่คุ้มกัน
แต่ถ้าหากว่าสร้างบุญสร้างกุศลแล้วไปสวรรค์มันก็คุ้มกันกับชีวิต
นอกจากนั้นเรามาเกิดเป็นมนุษย์อีกก็ยังจะได้รับความสมบูรณ์พูนสุข
เพื่อให้เป็นประโยชน์อย่างจริงจังก็ขอให้ท่านทั้งหลาย “อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ” จงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม
“ธัมโม หะเว รักขะติ ธัมมะจารี”
การปฏิบัติธรรมคืองามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุดแล้วนี่เขาเรียกว่าปฏิบัติธรรม
การปฏิบัติธรรมนั้นพระธรรมย่อมรักษา รักษาบุคคลผู้นั้นไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว
คือพระธรรมนี่จะตามรักษาเราทุกฝีก้าว หรือว่าบุญกุศลต่าง ๆ คุณงามความดีนี่จะตามรักษาเราทุกฝีก้าว
ตรงกันข้ามถ้าเราทำบาปนี่ บาปก็จะตามเราไปทุกฝีก้าวเช่นเดียวกัน
เพราะฉะนั้นจงเลือกเอาแต่ในทางที่ดีมีสติสัมปชัญญะ มีความอดทนต่อสู้ในชีวิตของเรา
จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ ๒ หน้าที่ ๑๘๔
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)
สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
๖๑.๐๑.๑๗
ใส่ความเห็น