เจตนานี่เป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อเจตนาดีแล้วนี่มันก็เกิดเป็นบุญทุกก้าวย่าง ทุกเวลาที่เรามาบำเพ็ญกุศล ตั้งแต่เรายังไม่ทันได้บำเพ็ญกุศลเราก็ได้บุญมาแล้ว

บุญนั้นเป็นสิ่งหนึ่งที่พวกเราจะต้องเข้าใจว่าทำไมเราจะต้องทำบุญ
การทำบุญนั้นเพื่อต้องการที่จะพัฒนา คือพัฒนาตัวเราเองนี่ให้สูงขึ้น

ถ้าเราไม่ทำบุญแล้วมีแต่บาปเขาเรียกว่าข่มเหงตัวเองให้ตกต่ำ
หมายความว่าต่ำลงไปจนกระทั่งถึงปุถุชนคนหนาไปด้วยอาสวะกิเลส
แต่ถ้าหากว่าเป็นบุญแล้วเป็นการพัฒนาตัวบุคคลผู้นั้น

พระพุทธเจ้าเป็นพระพุทธเจ้าขึ้นมาด้วยอะไร
ทำไมจึงเป็นพระพุทธเจ้า

เป็นพระพุทธเจ้าเพราะความตรัสรู้ ที่ใจของพระองค์นั่นน่ะได้พัฒนาขึ้นจากปุถุชนมาสู่กัลยาณชน จากกัลยาณชนมาสู่อริยชน จากอริยชนมาสู่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
อันนี้คือการพัฒนา พัฒนาดวงจิตนี้ให้จิตนี้ประเสริฐ
ทำไมจึงประเสริฐ

เพราะว่าคนเรานั้นมีกิเลส คือ ราคะ โทสะ โมหะ ความโลภ ความโกรธ ความหลง มีอยู่ในจิตใจ
เมื่อมีอยู่ในจิตใจก็เรียกว่าปุถุชน เมื่อมีกิเลสอยู่ก็เรียกว่าเป็นผู้ที่มีกิเลส
เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าก่อนแต่จะมาตรัสรู้พระองค์ก็มีกิเลสเหมือนกันกับพวกเรานี้เอง แต่ในเมื่อพระองค์มาทำสมาธิแล้วเจริญวิปัสสนา ก็กำจัดกิเลสเหล่านี้ออกไปหมดเกลี้ยง จนเรียกว่าพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นที่ใจ

เพราะฉะนั้นพวกเราทุกคนต่างคนต่างมีใจด้วยกันทั้งนั้น ทุกคนก็มีใจเรียกว่าใจประเสริฐ มีใจอยู่แล้ว
เมื่อมีใจอยู่แล้วนี่เราก็ทำความดีให้กับใจ สิ่งใดที่เป็นความดีเราก็ทำให้กับใจ

ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อที่จะให้ใจของเรานี้ได้รับการพัฒนาขึ้น จากปุถุชนให้มาเป็นกัลยาณชนเสียก่อน

เมื่อมาเป็นกัลยาณชนแล้วอริยชนก็หนีไปไม่พ้น ก็จะต้องเป็นขึ้นมาได้วันใดวันหนึ่ง

จากหนังสือ ธรรมรุ่งอรุณ ๒ หน้าที่ ๑๑๗
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน

๖๑.๐๑.๐๓