คำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์สอนให้มีขันติ ให้มีวิริยะ ให้มีอุตสาหะ

ขันติคือความอดทน
วิริยะคือความเพียร
อุตสาหะคือความบากบั่น

เพราะว่าชีวิตนี้ ท่านแปลว่าการต่อสู้
ต่อสู้มาตั้งแต่ลมหายใจครั้งแรกที่เราเกิดขึ้นมา
เราไม่หายใจเมื่อไหร่ก็ตายเมื่อนั้น

เพราะฉะนั้นชีวิตจึงเรียกว่าเป็นการต่อสู้
เพราะฉะนั้นการต่อสู้ก็ต้องมีขันติ มีความอดทน มีความพากเพียร อุตสาหะ มีความบากบั่น
เราจะเป็นคนขี้เกียจ ขึ้คร้าน เราจะเป็นคนมักง่าย เป็นคนประมาทไม่ได้

ความอดทนนั้นหมายความว่าอดทนต่อความลำบาก อดทนต่อความตรากตรำ อดทนต่อความเจ็บใจ

พระพุทธเจ้าตรัสว่า “วิริเยนะ ทุกขะมัจเจติ” เมื่อบุคคลมีความเพียรแล้วก็จะพ้นจากทุกข์ได้
คนที่เกียจคร้านนั้นไม่สามารถที่จะพ้นจากทุกข์ได้

อุตสาหะความบากบั่นนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
เพราะว่าเมื่อการทำงานทำการอะไรต่าง ๆ ไปแล้ว ก็จะต้องเจออุปสรรคต่าง ๆ นานานัปการที่จะต้องเกิดขึ้น เราก็ต้องบากบั่นฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านั้นไปจนกว่าจะพบความสำเร็จ

การงานต่าง ๆ ไม่มีอุปสรรคนั้นไม่มี การงานต่าง ๆ ก็จะต้องมีอุปสรรคอยู่นานัปการที่จะเกิดขึ้นในชีวิตของเรา

เพราะฉะนั้น ๓ ประการนี้คือขันติ วิริยะ อุตสาหะ
ขันติความอดทน วิริยะความเพียร อุตสาหะความบากบั่น จึงต้องมีการใช้ในชีวิตของเราอยู่ตลอด

จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ ๒ หน้าที่ ๓๙
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

ชีวิตต้องสู้สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
สุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา

๖๐.๑๒.๐๗