ความสุขที่เราไปหากันทุกหนทุกแห่งนั้นเราก็ไปเที่ยวหาได้ แต่เป็นความสุขที่ชั่วคราว
ไม่เหมือนกันกับความสุขที่เกิดขึ้นจากสมาธิ เป็นความสุขที่ถาวร เป็นความสุขทั้งชาตินี้ด้วย เป็นความสุขทั้งชาติหน้าด้วย แล้วก็ทำให้ชีวิตของเราเดินทางไปในทางที่ถูกที่ควร

เพราะว่าการทำจิตของเรานั้น จิตมีความสำคัญอย่างยิ่ง

จิตนี้เป็นตัวการที่จะสั่งงานต่าง ๆ
ใครจะเป็นคนสั่งงาน ก็ไม่มีใครนอกจากจิต
จิตนี้เป็นตัวประกันที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
เมื่อสั่งให้หัวเราะเราก็ต้องหัวเราะ สั่งให้ร้องไห้ก็ต้องร้องไห้ สั่งให้วิ่งก็ต้องวิ่ง สั่งให้เดินก็ต้องเดิน นี่คือใจที่สั่งการได้

เพราะฉะนั้นเมื่อเรามารู้จักต้นตอของความสุขแล้วเช่นนี้เราก็ต้องหาวิธีการ
การหาวิธีการนั้นอยู่ที่ตัวของเราที่จะเกิดศรัทธาอย่างไรขึ้นมา
เมื่อเกิดศรัทธาขึ้นมาแล้วนี่เราก็จะต้องแสวงหาว่าเราควรจะทำสมาธิอย่างไร ที่ไหน

อันนี้เป็นสติปัญญาที่เกิดขึ้นแก่ตัวของเราว่าเราจะต้องพยายามที่จะหาวิธีการสร้างสมาธิของเราให้เกิดขึ้นมาให้ได้
แล้วการที่เราสร้างสมาธิเกิดขึ้นมาให้ได้นั้นเป็นหนทางที่จะทำให้จิตนี้จากความที่เป็นปุถุชนมาเป็นกัลยาณชน จากกัลยาณชนไปเป็นอริยชน อย่างนี้เป็นต้น

เพราะอะไร
เพราะว่าการวิวัฒนาการพัฒนาทางด้านจิตใจก็สามารถพัฒนาได้
เพราะว่ามนุษย์เรามีจิตใจสูงสามารถที่จะพัฒนาได้ด้วยประการทั้งปวง
เพราะฉะนั้นในการที่เราแสวงหาต่าง ๆ นั้นก็จำเป็นที่จะต้องมีสติปัญญาแสวงหาที่ถูกต้อง ไม่ใช่ไปแสวงหาในทางที่ผิด

จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ ๒ หน้าที่ ๑๙
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
สุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา

๖๐.๑๒.๐๑