การที่ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานนั้นมันก็ยากที่กลับมาเกิดเป็นคนได้อีก

เพราะว่าในภพของสัตว์เดรัจฉานนั้นมันก็ชอบสัตว์เดรัจฉานด้วยกัน ต่างตัวมันก็ต่างมีความสำคัญในตัวของมันเอง แล้วมันก็จะอยู่ในภพเขาเรียกว่าอบายภูมิ มันไม่เกิดชาติเดียว มันจะเกิดเป็นร้อย เป็นพันชาติ

ทั้งนี้ถ้าเราเผลอ มันอาจจะเผลอได้
เพื่อป้องกันไม่ให้เราเผลอที่จะต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน สัตว์นรก จึงต้องมีสติ
มีสติคือการระลึกได้ ระลึกว่าในวันต่อวันนั้นเราได้ทำความดีอะไรไว้บ้าง
ถ้าวันต่อวันเราได้ทำความดีไว้เราก็มีความอุ่นใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าได้ทำสมาธิแล้วก็เพิ่มพูนสติ

เพราะว่าการทำสมาธินั้นกำจัดอารมณ์
เมื่อกำจัดอารมณ์ได้แล้วก็เหลืออารมณ์อันเดียวคือพุทโธ แล้วจากนั้นจิตก็เป็นหนึ่ง
จากความเป็นหนึ่งจิตก็เป็นสมาธิ เมื่อจิตเป็นสมาธิแล้วจิตก็ผลิตพลังจิต ตัวของเราก็ได้รับประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากสมาธินั้น
แล้วก็สมาธิที่ความเป็นหนึ่งเกิดขึ้นนั้นก็คือสติ เมื่อมีสติแล้วก็มีสมาธิ

เพราะฉะนั้นการทำสมาธิทุกครั้งจึงเป็นการที่ส่งเสริมสติให้แก่เราด้วย

เมื่อสติของเรามีอยู่แล้วเราก็ไม่ต้องทำความชั่วต่าง ๆ เราก็พ้นจากอบายภูมิ เราไม่ต้องไปสู่อบายภูมิ
เราก็ถึงแม้ว่าจะเวียนว่ายตายเกิด ยังไม่ทันสำเร็จมรรคผลธรรมวิเศษ เราก็เวียนว่ายตายเกิดในความเป็นมนุษย์ ก็ยังมีโอกาสที่จะได้บรรลุมรรคผลธรรมวิเศษในพระพุทธศาสนา ”

จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ ๒ หน้าที่ ๑๖
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
สุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา

๖๐.๑๑.๓๐