มนุษย์จะอยู่คนเดียวไม่ได้ จำเป็นที่จะต้องอยู่ร่วมกัน
เมื่ออยู่ร่วมกันก็จำเป็นที่จะต้องมีธรรมะเป็นเครื่องอยู่เพื่อทำความสามัคคีต่าง ๆ ให้เกิดขึ้น
เมื่อความสามัคคีต่าง ๆ มีอยู่แล้วก็กลายเป็นหมู่คณะที่มีความสุข มีความเจริญ

ตรงกันข้ามถ้าหากว่าหมู่คณะใดไม่มีความสามัคคี แตกความสามัคคีแล้วความทุกข์ก็เกิดขึ้น แม้กระทั่งครอบครัวและสังคมนั้นก็อยู่ไม่เป็นสุข

เพราะฉะนั้นธรรมข้อหนึ่งที่เป็นข้อที่มีความสำคัญคือ สามัคคี
ความที่จะมีความกลมเกลียวพร้อมเพรียงซึ่งกันและกัน

ความที่จะมีความสามัคคีพร้อมเพรียงซึ่งกันและกันได้นั้นก็ต่อเมื่อเรามีความอดทน ต่อเมื่อเรามีเหตุผล ต่อเมื่อเรามีความรับผิดชอบ

องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคทรงแสดงว่า “สุโข สังฆัสสะ สามัคคี” ความสามัคคีนั้นที่จะนำความสุขมาให้

ตรงกันข้ามถ้าหากว่าแตกสามัคคีเกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ความทุกข์ก็เกิดขึ้น ความสุขก็หายไป

ร่างกายของคนเราที่เราพากันอยู่ได้นี้เพราะความสามัคคีของร่างกาย

ถ้าร่างกายเกิดการแตกสามัคคี หมายความว่าตาก็ไม่เห็น หูก็ไม่ได้ยิน ธาตุขันธ์ต่าง ๆ ก็มีการสลายตัวก็เรียกแตกสามัคคี
เมื่อร่างกายแตกสามัคคีเมื่อไหร่โรคก็เข้ามาแทน

เรื่องของใจ เมื่อใจเกิดแตกสามัคคีคือเกิดความฟุ้งซ่านมากขึ้น ๆ แล้ว ความสงบของใจก็ไม่มี
เมื่อความสงบของใจไม่มี ความเกิดอาฆาต ความพยาบาท ความจองเวรต่าง ๆ ก็เกิดขึ้นมาจากใจ

ความสามัคคีของใจก็คือ เมื่ออารมณ์ต่าง ๆ นี้มีมากเราก็ขจัดอารมณ์ด้วยการบริกรรม
จะบริกรรมพุทโธ จะบริกรรมธัมโม จะบริกรรมสังโฆ จะบริกรรมอัฐิ จะบริกรรมอะไรก็ได้ทั้งนั้น แต่ว่าให้จิตใจนั้นสามัคคีคือความเป็นหนึ่งเดียว
เมื่อความเป็นหนึ่งเดียวเกิดขึ้นจิตใจก็เกิดพลัง
เมื่อเกิดพลังก็สามารถควบคุมจิตใจของตนเองได้ บุคคลนั้นก็จะมีความอดทน
ต้องมีความอดทน มีความพากเพียร ยกเลิกความเห็นแก่ตัว ยกเลิกความผูกพยาบาทอาฆาตจองเวร ยกเลิกสิ่งที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย นี่คือจิตที่เกิดความสามัคคี

เมื่อความสามัคคีเกิดขึ้น พลังเกิดขึ้น ความแข็งแกร่งของจิตใจเกิดขึ้น มันก็ทำให้เรามีความสุขมากยิ่งขึ้น
ตนของตนก็จะเป็นที่พึ่งของตนได้
นอกจากจะเป็นที่พึ่งของตนได้แล้วก็ยังเป็นที่พึ่งของคนอื่นด้วย

จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ ๓ หน้าที่ ๑๗๑
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
สุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา

๖๐.๑๑.๐๖