ฟ้องปปช. เอาผิดอดีตผู้อำนวยการธนาคารออมสินปล่อยกู้นักธุรกิจดังในตลาดหลักทรัพย์หลายพันล้าน พ้นตำแหน่งไม่ทันข้ามปีไปนั่งเป็นกรรมการผู้จัดการ

แหล่งข่าวในวงการธนาคารตั้งข้อสังเกตกรณีปปช.ออกก.มมาตราใหม่ นิติบุคคลหรือบุคคลมีให้ผลประโยชน์เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์จากหน่วยงานรัฐกลับคืนมามีความผิดฐานทุจริตด้วยเช่นกัน มีผลติดคุก 5 ปี

แหล่งข่าวยกตัวอย่างกรณีอดีตผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทเอกชนค้าอสังหาริมทรัพย์รายหนึ่งนับเป็นจำนวนพันๆล้านบาท เป็นสินเชื่อรายย่อย ให้กับลูกค้า และต่อมาอดีตผอ.รายนี้ได้ออกจากตำแหน่งเนื่องครบวาระ จากนั้นจึงเข้าไปดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการให้กับบริษัทเอกชนรายนี้ฃึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ในทันที

ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเป็นการชอบธรรมหรือไม่ โดยเฉพาะมีการนำเงินไปลงทุนฃื้อหุ้นในกิจการนี้ด้วย

แหล่งข่าวกล่าวว่า ตนจะทำเรื่องส่งให้ปปช.พิจารณาแม้จะไม่หวังว่าปปชจะทำหน้าที่ตรวจสอบสำเร็จหรือไม่เนื่องจากมีข่าวว่าคนในปปช.เป็นพรรคพวกของอดีตผอ.รายนี้ก็ตามตนเชื่อว่า เป็นการยากที่จะช่วย เพราะปปชคงจะไม่สามารถปิดได้ทุกเรื่อง เนื่องจากมีการร้องเรียนบุคคลนี้ในขณะดำรงตำแหน่งเป็นจำนวนหลายคดี แต่ที่ผ่านมามีการอุดปิดช่องทางไว้หมด

แม้แต่กระทรวงการคลังก็ไม่จัดการแม้ธปทจะชี้มูลมาหลายคดี ต่างนิ่งเฉย หากวันใดตนร้องขึ้นมาบ้างเชื่อแน่ว่าแม้แต่กระทรวงการคลังก็จะมีความผิดในฐานละเลยการปฎิบัติหน้าที่ต่อการทุจริตของผอ.คนนี้

เช่นเดียวกับนาย นริศ ชัยสูตร อดีตประธานธนาคารเอสเอ็มอีแบงค์ที่ถูกร้องเรียนปปชเรื่องตั้งลูกหนี้nplของธนาคารมาเป็นผู้ตรวจสอบธนาคารผ่านมาสามปี ไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากมีการอ้างว่า พนักงานธนาคารเป็นผู้ชงชื่อนี้ขึ้นมาให้ลงนาม ขณะที่พนักงานกลุ่มที่ถูกอ้างว่าเป็นผู้ชงต่างเกรงกลัว เพราะได้รับคำสั่งให้ชงเสนอขึ้นไปโดยพวกตนไม่ทราบว่าคนที่ให้ชงไปนั้นเป็นใครมาก่อน

เพราะตนทำตามนายสั่ง