เราท่านทั้งหลายความอดทนก็ดี ความเพียรก็ดี ความอุตสาหะก็ดี ความตั้งใจมั่นก็ดี ความศรัทธาทั้งหลายก็ดี
ทุกสิ่งอย่างเหล่านี้จะเป็นบันได คือเป็นบันไดให้เรานี่ได้สร้างทุกอย่างที่มันเป็นบุญกุศล เรียกว่าความดี

เมื่อเป็นเช่นนั้นชีวิตของคนเรานี่มันก็จะเกิดเป็นชีวิตที่มีค่าหาราคามิได้
ที่ว่ามีค่าหาราคามิได้นั้นก็คือว่าไม่มีอะไรจะมาแลกเอาไปได้ เงินทองมีร้อยล้าน พันล้านก็มาแลกเอาบุญกุศลเหล่านี้ไปไม่ได้

เพราะฉะนั้นในเรื่องที่เราพากันสร้างพลังจิตของเรานี่จึงเป็นเรื่องใหญ่
เมื่อเราได้หนทาง คือหนทางที่จะทำสมาธิแล้วเราก็พยายามที่จะสร้างสมาธิของเรานี่ให้ยิ่งใหญ่ขึ้น
การสร้างสมาธิของเราให้ยิ่งใหญ่ขึ้นนั้นไม่จำเป็นต้องทำทีเดียวให้เสร็จ ถึงยังไงก็ตามทำทีเดียวมันก็ไม่เสร็จอยู่แล้ว
เราทำทีเดียวเสร็จไม่ได้ เราก็จะต้องทำค่อยเป็นค่อยไป เหมือนกับน้ำฝน

น้ำฝนถ้ามากเกินไปมันก็ใช่ว่าจะเป็นประโยชน์ น้ำฝนถ้าน้อยเกินไปมันก็เสียประโยชน์ น้ำฝนมันต้องตกลงมาพอดี ๆ ข้าวกล้าต่าง ๆ มันก็จะงอกงามขึ้นมาได้เพราะความพอดี

การที่เราจะสร้างสมาธิอะไรต่าง ๆ ให้แก่เรานั้นก็เรียกว่าทำให้เกิดความพอดี
ก็พอดีนั่นน่ะความพอดีจะเป็นสิ่งที่สำเร็จ

ด้วยเหตุนั้นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงตรัสว่า “มัชฌิมา ปฏิปทา” การปฏิบัติหนทางกลาง
การปฏิบัติหนทางกลางก็คือการปฏิบัติหนทางพอดีนั่นเอง

เมื่อเราจะทำบุญกุศลสิ่งใดเราก็ทำพอดีพอเหมาะ
เมื่อเราจะทำสมาธิเราก็ทำพอดีพอเหมาะ แล้วผลมันก็จะออกมาดี

จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ ๔ หน้าที่ ๒๖๑
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
สุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา

๖๐.๐๙.๐๖