ท่านทั้งหลายนั่งฟังเทศน์ก็ดี ท่านทั้งหลายมานั่งทำสมาธิก็ดี ท่านทั้งหลายได้พากันมาบำเพ็ญกุศลต่าง ๆ ก็ดี ทั้งหมดเหล่านี้เรียกว่าเราได้บำเพ็ญกุศลที่ถูกต้อง

เมื่อเราบำเพ็ญกุศลที่ถูกต้องแล้วชีวิตของเรานี่มันเป็นสิ่งที่มีคุณค่าหรือคุณสมบัติมากมายนับไม่ถ้วน

เราท่านทั้งหลาย ถ้าเราอยู่อย่างนี้คือหมายความว่ามีความดีที่เราทำกันอยู่ปรากฏเด่นชัดอย่างนี้
นี่คือสิ่งที่ทำให้เรานี่มีสิ่งที่พัฒนาตัวของเราจากปุถุชนมาหากัลยาณชน จากกัลยาณชนมาหาอริยชน

นี่เป็นสิ่งที่ถ้าเราทำได้นี่มันเป็นสิ่งที่พัฒนาตัวของเราให้สูงขึ้นตามลำดับ

อย่างไรก็ตามถ้าเราได้นั่งสมาธิเป็นการต่อเนื่องแล้ว อะไรจะมาดีเท่าไม่มีอีกแล้ว

เพราะว่าการทำสมาธินั้นเป็นสิ่งที่บำเพ็ญทั้งกุศล ทั้งได้พลังจิต ทั้งได้กุศล ทั้งได้บารมีเพียบพร้อม เพียบพร้อมในสมาธิ

เราพากันนั่งสมาธิบริกรรมพุทโธ พุทโธ เรานึกว่ามันเป็นของธรรมดา ไม่ใช่ธรรมดา มันเป็นสิ่งที่เพิ่มมหากุศลทุกด้านให้แก่เรา
เพราะว่าเมื่อเราสร้างพลังจิตขึ้นมาแล้วนี่ พลังจิตนี่มันจะก่อตัวให้แข็งแกร่งขึ้น
เมื่อเราทำต่อไปเรื่อย ๆ พลังจิตนี้ก็จะต้องเพิ่มเป็นเงาตามตัว
เมื่อพลังจิตเพิ่มขึ้นไปแล้วนี่ สิ่งต่าง ๆ ที่มันจะไปรวมกันอยู่ที่พลังจิตนี่คือ บุญ วาสนา บารมี ก็ไปรวมกันอยู่ในที่นั้น

เพราะฉะนั้นเมื่อเวลาที่เราทำสมาธิแม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงเล็กน้อย แต่ว่าผลที่ออกมานั้นเป็นสิ่งที่ใหญ่โตมาก

เพราะฉะนั้นการที่จะลงทุนทำสมาธิจึงเป็นการที่สมควรอย่างยิ่ง

จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ ๔ หน้าที่ ๒๔๐
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
สุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา

๖๐.๐๘.๓๐