คนที่ได้ทำความดีสมมุติว่ามาเรียนสมาธิ มาทำบุญทำทานนี้มันเป็นเรื่องความสุขที่จะอยู่กันไปนาน

ไม่ใช่ว่าไปเกิดในชาตินี้เสวยบุญแล้วก็เกลี้ยงบุญไม่เกลี้ยง บุญมันจะต้องติดตนตามตัวเราไปตลอด

สิ่งที่มันจะเกิดขึ้นที่เราจะได้รับอยู่ในปัจจุบันก็คือบุญกรรมที่เราได้ทำเอาไว้แต่อดีต
บุญกรรมทำไว้แต่อดีตมันก็ส่งผลมาในปัจจุบันให้เราเห็นอยู่

คนเรานั้นที่จะแข่งขันอะไรมันก็แข่งขันกันได้ แต่จะมาแข่งขันบุญวาสนานั่นแข่งกันไม่ได้
เพราะว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นปัจจัยอันยิ่งใหญ่อยู่แล้ว
เราเคยทำมาตั้งแต่ก่อนน่ะใครจะมาขัดขวางยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้ เขาก็จะต้องสำเร็จผลงานที่เขาจะทำอยู่จนได้

คุณงามความดีต่าง ๆ ที่เราทำนี้อย่าไปคิดว่ามันเป็นของเล็กน้อย
เราทำนี่แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ว่าค่าของบุญนั้นน่ะมันมีค่าบุญที่ยิ่งใหญ่

สิ่งที่เป็นบาปน่ะมันเป็นสิ่งทารุณให้ผลกันเรา มันทารุณมาก ทารุณจริง ๆ
บาปที่เราทำไว้มันทารุณ มันตามมาล้างผลาญเรา มันเรียกว่าทารุณมาก

ในทางตรงกันข้ามถ้าทำบุญ บุญก็สามารถส่งผลอย่างวิเศษ จะหาอะไรที่จะมาเสมอด้วยบุญไม่มี

เพราะฉะนั้นพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ในชีวิตของเรานั้นน่ะควรที่จะให้เป็นชีวิตที่มีบุญ และเมื่อถึงคราวเราสิ้นชีพทำลายขันธ์เราก็ไปเสวยบุญอย่างแน่นอน

การที่เราจะทำบุญได้นั้นก็อยู่ที่ศรัทธา
เรามีความเชื่อความเลื่อมใสเราก็ทำไปตามมีตามได้
การทำบุญเขาบอกว่าอย่าทำให้ตัวของเราเดือดร้อน
เราทำของเราให้ดูฐานะของเราให้พอดี ๆ บริจาคได้ตามปรกติไม่ต้องเดือดร้อนตนของตนด้วย
เพราะว่าการทำบุญนั้นได้บุญมากอยู่ที่ศรัทธา

จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ ๔ หน้าที่ ๑๘๒
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
สุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา

๖๐.๐๘.๑๔