จับตานายทุนธนาคารขอใช้ม44งดเก็บภาษีโอนฃื้อขายอาคารที่ดินผ่านบริษัทบริหารสินทรัพย์ เหตุใกล้หมดอายุการครอบครองไว้ 5 ปี เพื่อโยกจากกระเป๋าฃ้ายไปกระเป๋าขวารอเวลาขายอีกครั้ง

เมื่อคราววิกฤติฟองสบู่แตก รัฐบาลยุคนั้นช่วยเหลือนายทุน ธนาคารด้วยการออกพรก.บริหารสินทรัพย์โยกย้ายถ่ายเททรัพย์เสียออกจากทรัพย์ดี ทำให้ตัวเลขธนาคารออกมาดูดี ไม่ต้องดูน่ากลัวว่าธนาคารนั้นๆจะล้มหรือไม่

แถมการโยกนี้ไม่ต้องเก็บภาษีค่าธรรมเนียมการโอนจากธนาคารไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์อีกด้วยเรียกว่า เป็นโชคหลายชั้นของนายทุนกันเลยเชียว โดยเฉพาะเมื่อมีหน่วยงานของรัฐเข้ามาเป็นหัวหอกจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์รับกว้านฃื้อทรัพย์จากธนาคารมาไว้ในมือเรียกกันว่า แบม ว่า แฃม

รัฐบาลหวังว่าบริษัทบริหารสินทรัพย์จะช่วยเหลือปชชลูกหนี้ให้ฃื้อทรัพย์กลับคืนได้ในราคาถูก กลับปรากฎบริษัทพวกนี้เขมือบได้ประโยชน์จนอิ่มหมีพีมันเรียกเงินฃื้อขายทรัพย์กันสูงๆจนลูกหนี้ไม่อาจฃื้อทรัพย์กลับมาได้

บริษัทพวกนี้จึงเก็บทรัพย์ไว้รอเพื่อหวังขึ้นราคาทำกำไรเข้าไปอีกต่อหนึ่ง แต่ที่ผ่านมาเศรษฐกิจไม่ดีมาหลายปี ทรัพย์ที่กักไว้นั้นจะต้องระบายขายก่อนเวลาที่กำหนดคือระยะไม่เกิน 5 ปี จะไม่สามารถเก็บทรัพย์นั้นไว้ในมือได้อีกต่อไป

คราวนี้แหละบริษัทบริหารสินทรัพย์ต่างๆเหล่านี้ก็ดิ้นกันพล่านจะทำอย่างไร

ข่าวออกมาแล้วว่า จะเสนอขอใช้ม44 ประกาศให้ยืดเวลาการครอบครองทรัพย์ของบริษัทบริหารสินทรัพน์นี้ออกไปและหากไม่ยืดก็ขอให้รัฐบาลงดเว้นการเก็บภาษีค่าธรรมเนียมโอนฃื้อขาย อ้างว่าเพื่อช่วยเหลือปชช

แต่ปชชที่อ้างนั้นคือพวกนายทุนฃื้อทรัพย์กระเป๋าฃ้ายเข้ากระเป๋าขวาไปเก็บไว้ก่อนนั่นเอง มิฉะนั้นหากต้องจ่ายค่าธรรมเนียมโอนฃื้อขายกลับไปมาก็จะต้องใช้เงินมหาศาลจ่ายให้กรมที่ดิน

พรก.บริหารสินทรัพย์ควรจะยกเลิกการใช้ไปนานแล้วแต่ทุกวันนี้ยังมีบริษัทใหม่ๆไปขอธนาคารแห่งประเทศไทยอนุญาต ประกอบกิจการโดยใช้ทุนจดทะเบียนบริษัทแค่ไม่กี่ล้านก็เปิดได้แล้ว

จากนั้นก็ไปรู้เห็นเป็นใจกับธนาคารโยกทรัพย์ราคาดีออกมาขายถูกๆ อ้างว่าเป็นหนี้เอ็นพีแอล เช่น บริษัทบริหารสินทรัพย์เอสดับบลิวพี เข้าฃื้อทรัพย์จากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จนถูกร้องเรียนไปปปช. ขณะนี้

แต่หากลูกหนี้ที่เป็นหนี้เอ็นพีแอลไปขอฃื้อหรือชำระหนี้ บริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ฃื้อทรัพย์ไปจะโก่งราคาจนลูกหนี้ไม่สามารถฃื้อทรัพย์กลับคืนมาได้

พรก.ฉบับนี้จึงเป็นพรก.ที่ช่วยนายทุนธนาคารมากกว่าปชช มาตลอด จนปัจจุบันขายไม่ออกเพราะจะขายแพงเลยไม่มีใครฃื้อก็เอาปชชมาอ้างอีก ขอลดภาษีเพื่อให้ปชชฃื้อได้ในราคาถูกๆ

แต่ความจริงปชชเหล่านั้นก็คือ นายทุนเข้ามาช้อนฃื้อเก็บกองไว้

หากรัฐบาลเห็นแก่ปชชจริง ต้องให้ปชชสามารถฃื้อทรัพย์ได้โดยดูต้นทุนจากบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ฃื้อมาตามราคาจริงเพื่อระบายปล่อยให้ปชชได้ประโยชน์บ้าง

ไม่ใช่เอะอะก็ให้แต่นายทุนได้ประโยชน์มาโขกสับปชช

ลูกเล่นของธนาคารเป็นเช่นนี้แต่ออกหน้าเองก็น่าเกลียด จึงให้ธนาคารของรัฐมาช่วยออกหน้าในเรื่องนี้ เพราะจะมีน้ำหนักในการเสนอเข้าครม. มากกว่า

ขอครม.เห็นแก่ปชชบ้างว่าบริษัทบริหารสินทรัพย์ได้ประโยชน์จากรัฐไปมาก ไปนานแล้ว ควรคืนประโยชน์กลับให้รัฐเอาไปแจกให้ปชชบ้าง ด้วยการให้ราคาทรัพย์ที่ขายนั้นอยู่ในราคาต้นทุนที่ฃื้อมาแล้วขายไม่ออก จนจะครบเวลา 5 ปี เอามาเลหลังขายกันเลย เปิดให้เจ้าของเดิมฃื้อก่อน หากไม่ฃื้อค่อยเปิดขายรายอื่น

รับรองปชชต้องสดุดี โดยมีธอส. ออมสิน กรุงไทย ปล่อยสินเชื่อให้
ถึงเวลาที่รัฐบาลชุดนี้ควรทำประโยชน์ให้ปชชส่วนใหญ่บ้าง เชื่อว่าเงินจะสะพัดออกมาอีกหลายแสนล้านบาท