เอาใจนักท่องเที่ยวเป็นเลิศ

พล.อ ธนะศักดิ์ ปฎิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ (ททช.) กล่าวว่าที่ประชุมได้อนุมัติหลักการการทำประกันภัยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติทุกคนที่เดินทางมาประเทศไทย โดยให้ใช้เงื่อนไขการนำเงินรายได้จากค่าธรรมเนียมวีฃ่า มาเป็นค่าเบี้ยประกัน

ว่าแล้วก็สั่งการให้กระทรวงท่องเที่ยวไปคุยกับกระทรวงคลัง คาดว่าจะใช้งบประมาณ180ล้าน เพื่อมาทำประกันภัยให้นักท่องเที่ยวโดยคิดอัตราอยู่ที่หัวละ 6 บาท

ส่วนกระทรวงสาธารณสุข ขอที่ประชุมบ้างเพื่อเอามาทำประกันภัยค่ารักษาพยาบาล โดยจะของบหัวละ 50 บาท จากจำนวนนักท่องเที่ยว30 ล้านคน โดยใช้เงินจากค่าธรรมเนียมวีฃ่าเช่นเดียวกัน คิดเป็นเงิน หนึ่งพันห้าร้อยล้านบาท

เมื่อดูจำนวนเฉลี่ยต่อหัว และ ที่มาของเงินแล้ว ก็ดูจะไม่น่ามีปัญหา ถ้าค่าธรรมเนียมวีฃ่ามีเงินให้ใช้จ่ายได้

แต่เมื่อมองถึงนโยบายนี้เทียบกับที่คนไทยต้องเดินทางไปต่างปท ไม่ว่าจะไปเที่ยวหรือไปเรียนหนังสือ ส่วนใหญ่แล้วมักจะฃื้อประกันการเดินทาง และบาง

ปทก็บังคับให้นักเรียน นักศึกษา ต้องฃื้อประกันสุขภาพ ติดตัวไปด้วย

นับเป็นความโชคดีของคนต่างชาติที่จะเดินทางมาบ้านเรา ไม่ต้องควักเงิน        ฃื้อประกันภัยและประกันสุขภาพเอง เอาไว้เป็นจุดขายของปท

แต่สำหรับปชชคนไทยคงคิดว่าเงินจำนวนกว่า1500 ล้าน ที่กระทรวงสาธารณสุขจะเอาไปใช้จ่ายช่วยเหลือดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาเจ็บป่วยในบ้านเราแล้ว คงจะคิดว่า คนไทยยังรับการรักษาได้ไม่ดี แถมยังเอาหมอ เอาบุคลากรของรัฐไปใช้ในรพเอกชนเพื่อให้ปทไทยเป็น madical hub เข้าอีกด้วย คนไทยจึงตกเป็นเตี้ยอุ้มค่อม เพื่อรักษาหน้า อวดหน้า ตัวเอง

แต่ปชช.ในปท กลับถูกเหยียบยำเรื่องค่ารักษาพยาบาล ถึงกับประกาศเปลื่ยนแปลงบัตรทองสิทธิการรักษาของคนไทยให้เป็นสิทธิร่วมจ่าย ขณะที่การทุจริต แก๊งเอายา หรือทุจริต จัดฃื้อ จัดจ้าง แอบใช้ เบิกจ่าย ยังไม่ถูกเข้มงวดตรวจตราจากกระทรวงสาธารณสุขได้ดีพอ หรือเอาจริงเอาจัง

แต่ต่างโยนความผิดให้กับบัตรทอง สิทธิของปชช.ที่รัฐควรดูแลปชช.ให้เท่าเทียมกัน

ปัญหาต่างๆในปทไทยคงนับวันแก้ยากขึ้นไปทุกที เพราะมันมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องบดบังจิตสำนึกที่ดีของผู้บริหารประเทศ ของข้าราชการ โดยลืมดูถึงสิทธิที่ปชช.ควรได้ ในฐานันดรของความเป็นปชช.ในประเทศพึงได้จากรัฐ