เรามีโอกาสดีที่จะมาเรียนสมาธิเพื่อที่จะทำจิตใจของเราให้ยกระดับโดยแท้จริงได้นั้น
อันนี้ก็เป็นโชคของชีวิตผู้นั้น

เพราะว่าการทำบุญอื่นก็ดี การทำบุญเรื่องสมาธินี่เป็นการที่ยกระดับจิตโดยแท้จริง

เมื่อก่อนที่เราจะมาทำสมาธินี่เรามีจิตอีกระดับหนึ่ง เขาเรียกว่าระดับธรรมดา
เรายังไม่ได้ทำสมาธิมันก็เป็นระดับธรรมดา แต่พอเวลาที่เรามาทำสมาธิ เรามาเรียนสมาธิแล้วนี่จิตของเรานี่จะถูกยกระดับขึ้นทันที

เหมือนกันกับเราไปโรงเรียน
แต่ก่อนเราไม่ได้ไปโรงเรียนนี่ก็ไม่รู้ประถมอะไร ไม่มีประถม อย่างนี้เป็นต้น ก็มันไม่ได้ชั้น
แต่พอเวลาเราเข้าไปเรียนพับนี่เริ่มต้นไม่ต้องอะไรหรอก เริ่มต้นเข้าเข้าโรงเรียนวันแรกก็เริ่มได้ชั้นแล้ว

เหมือนกันกับเรามาทำสมาธิ อย่างมาเรียนครูสมาธิ ต้องใช้เวลา ๖ เดือน อะไรอย่างนี้ มันก็ได้ตั้งหลายชั้น
ปฐมฌานเราก็ได้ ทุติยฌานเราก็ได้ ได้แล้วมันก็ไม่หายนะ เราดูเหมือนมันหายแต่มันไม่หายหรอก

เหมือนกันกับเราไปเรียนหนังสืออย่างนี้
เราไปเรียนมาได้ เราจบมัธยมแล้วดูเหมือน ๆ ว่าตัวเบา ๆ ไม่มีอะไร แต่แท้ที่จริงเรามี

แต่ทีนี้ถ้าหากว่าเราจะเปรียบเทียบกับคนที่เขาไม่ได้เรียนหนังสือนี่ มันไม่มีก็ไม่มีจริง ๆ
เหมือนกับคนที่ไม่มาทำสมาธิอย่างนี้ มันไม่มีมันก็ไม่มีจริง ๆ
เหมือนกับคนที่ไม่เรียนหนังสือมันก็ไม่ได้ชั้น
เพราะว่ามันไม่ได้เรียนมันก็ไม่ได้ชั้น มันก็เปล่า ๆ
แต่ทีนี้เมื่อมันได้ชั้นขึ้นมาแล้วนี่ก็ไปต่อมหาวิทยาลัยก็ได้ ไปเป็นอะไรก็ได้ ”

จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ ๒ หน้าที่ ๑๗๗
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธื-แบ่งปัน

๖๑.๐๑.๑๕