เกิดเป็นมนุษย์ พบพระพุทธศาสนาถือเป็นผู้วิเศษ…อย่างไร
ในการที่เรามาเกิดเป็นมนุษย์ ในการพบพระพุทธศาสนาแล้วเช่นนี้ ถือว่าเราเป็นผู้วิเศษ
ทำไมถึงเรียกว่าวิเศษ
เพราะสามารถพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้จากปุถุชนมาเป็นกัลยาณชน จากกัลยาณชนมาเป็นอริยชน ตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่เรียกว่าคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้านั้นเป็นของดีของวิเศษ นับว่าเป็นแก้วรัตนมงคลของโลก เพราะเหตุใด
เพราะเหตุว่าคำสอนของพระพุทธเจ้านั้น สามารถที่จะชี้ช่องทางว่าเราจะพัฒนาตัวของเราเองขึ้นมาได้อย่างไร
การที่จะพัฒนาตัวของเราเองขึ้นมานั่นถ้าหากว่าไม่มีคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้วเราก็ไม่มีหนทาง
เมื่อไม่มีหนทางเราก็ไม่รู้จักอันไหนเป็นบาป อันไหนเป็นบุญ อันไหนเป็นคุณ อันไหนเป็นโทษ ก็ทำอะไรต่าง ๆ ไปตามอัธยาศัยตามใจชอบ
ในมนุษย์ทั้งหลายนั้นตามปรกติแล้วจิตใจก็มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
บางทีก็มีจิตใจสวยงดงาม บางทีก็มีจิตใจเลวทราม ก็สุดแล้วแต่ว่าอารมณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาจากตัวของเรานั้นจะแปรสภาพ
เพราะว่าอารมณ์ที่เกิดขึ้นมาจากจิตใจที่เราเกิดขึ้นในทุกวัน ทุกวันนั้น มันเป็นอารมณ์ที่จะแปรสภาพให้เราเป็นคนดีหรือคนชั่ว
ด้วยเหตุนี้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้แนะนำในเรื่องสมาธิไว้ให้แก่พวกเราว่า สมาธินั่นแหละที่จะทำให้พวกเราทั้งหลายได้รับการพัฒนาในกรณีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาด้านศีล ด้านสมาธิ หรือการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ของการที่จะก้าวสู่ความเป็นมนุษย์ที่มีความสมบูรณ์
เพราะฉะนั้นในคัมภีร์ท่านถึงแสดงว่าร่างกายเป็นมนุษย์แต่ใจเป็นสัตว์ อย่างนี้ก็เรียกว่าต่ำช้า
ร่างกายเป็นมนุษย์แต่ใจก็เป็นมนุษย์ถือว่าเป็นคุณความดี
ร่างกายเป็นมนุษย์แต่ใจเป็นเทวดาก็ถือว่าประเสริฐขึ้น
เพราะฉะนั้นในจิตใจของคนเรานี้จึงแปรสภาพได้ตามความที่อารมณ์ต่าง ๆ จะผ่านเข้ามา
การทำสมาธิ เมื่อเราได้ทำสมาธิแล้วสมาธินี้จะเป็นเครื่องกลั่นกรองอารมณ์ต่าง ๆ กลั่นกรองอารมณ์ต่าง ๆ เอาแต่เฉพาะอย่างดี สิ่งที่ไม่ดีเราก็ไม่เอา เราเอาแต่เฉพาะสิ่งที่ดี ก็เรียกว่ากลั่นกรอง
เพราะว่าการกลั่นกรองนั้นเป็นการกลั่นกรองด้วยสติ เป็นการกลั่นกรองด้วยปัญญา ไม่ใช่ว่าเราจะมากลั่นกรองเอาเอง แต่ว่าเราก็จะต้องทำให้การที่เรามีการกลั่นกรองขึ้นมาได้
ยกตัวอย่างคนที่ทำสมาธินั้นในครั้งแรกก็มีอารมณ์มากมายก่ายกองนับไม่ถ้วน
แต่พอเวลามาทำสมาธิเข้าก็เหลืออารมณ์อันเดียว นี่ก็เรียกว่ากลั่นกรองแล้ว กลั่นกรองจากร้อยแปดพันประการนั้นมาเหลืออารมณ์อันเดียว นี่ก็เรียกว่าเป็นสิ่งวิเศษ
วิเศษก็คือจิตก็จะได้เป็นหนึ่ง
เมื่อจิตเป็นหนึ่งได้แล้วจิตนั้นก็รวมลงเป็นสมาธิ
เมื่อจิตรวมลงเป็นสมาธิแล้วสมาธิก็สามารถผลิตพลังจิต
เมื่อสมาธิผลิตพลังจิตได้แล้วพลังจิตจะเก็บไว้ที่ใจ เก็บไว้ที่จิตของเรา
เมื่อเก็บไว้ที่จิตของเราแล้วมันก็เป็นการถาวรเรียกว่าไม่เสื่อมสูญสลายตัว
จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ ๒ หน้าที่ ๘๑
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)
สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
สุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา
๖๐.๑๒.๒๖
ใส่ความเห็น