เสาหลักก็หมายความว่าที่ยึดมั่น
เวลาที่เราเข้าที่คับขันนี่มันต้องมีสิ่งที่ยึดมั่น ถ้าไม่มีสิ่งที่ยึดมั่นแล้วมันจะทรงตัวไม่อยู่

เรานับถือพระพุทธศาสนาแล้วเราจะมีคนถามเราว่าเรานับถือพระพุทธศาสนาเรานับถืออะไรเป็นหลัก

เสาหลักก็คือ ข้อ ๑ ได้แก่พระพุทธเจ้า ข้อ ๒ ก็ได้แก่พระธรรม ข้อ ๓ ก็ได้แก่พระสงฆ์
ทั้ง ๓ ข้อนี้ถือว่าเป็นหลักประกันว่าเราได้นับถือพระพุทธศาสนา

เรายึดพระพุทธเจ้าด้วยเหตุผลอะไร
“อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา” พระพุทธเจ้าเป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ คือตรัสรู้ หมายความว่าละกิเลส กิเลสคือราคะ โทสะ โมหะ พระองค์กำจัดออกไปหมดแล้ว พระองค์เป็นผู้ประเสริฐ
“พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ” ข้าพเจ้าขออภิวาทกราบไหว้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ทีนี้เสาหลักที่ ๒ ก็คือพระธรรม เราก็กล่าวว่า “สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม” สวากขาโตแปลว่าพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคตรัสดีแล้ว คือคำสอนของพระพุทธเจ้านี่ดีแล้วทุกคำ จะคำไหนออกมาคำไหนคำนั้นถือว่าเป็นของประเสริฐสุด เราจึงนับถือพระธรรมนั้น
“ธัมมัง นะมัสสามิ” ข้าพเจ้านมัสการกราบไหว้พระธรรมนั้น

เรากราบไหว้ธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสดีแล้ว ตรัสดีแล้วก็พูดกันย่อ ๆ ๓ อย่างก็คือละความชั่ว ประพฤติความดี ทำสมาธิ ๓ อย่างนี่ก็ถือว่ายอดเยี่ยม เรียกว่าถ้าใครทำได้ก็ถือว่าถูกต้อง

ทำไมเราถึงพูดว่าสวากขาโต
สวากขาโตแปลว่าพระธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัส ตรัสแปลว่าพูด พูดออกมาดีแล้ว ๘ หมื่น ๔ พันพระธรรมขันธ์ดีทุกคำ

เสาหลักที่ ๓ ก็คือพระสงฆ์
“สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ” พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว
“สังฆัง นะมามิ” ข้าพเจ้านอบน้อมกราบไหว้พระสงฆ์นั้น
ถ้าท่านปฏิบัติไม่ดีเราไม่ได้กราบ เรากราบท่านผู้ปฏิบัติดี

จากหนังสือ ธรรมะรุ่งอรุณ ๔ หน้าที่ ๒๙๖
พระธรรมมงคลญาณ (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

สวนพนาสนธิ์ ๓/ศูนย์สัมมนาป่าพนาสนธิ์-แบ่งปัน
สุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา

๖๐.๐๙.๒๐