ความสามัคคี
สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี ความพร้อมเพรียงของหมู่คณะ นำความสุขมาให้

  •                  image

ภิกษุทั้งหลายสนทนากันว่า “อะไรหนอเป็นสุขในโลกนี้?” แล้วมีความเห็นแตกต่างกันไป เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมา จึงกราบทูลถาม ตรัสว่า “การเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าเป็นเหตุนำสุขมา การแสดงธรรมของสัตบุรุษ (ก็นำสุขมา) ความพร้อมเพรียงของหมู่ และความเพียรของผู้พร้อมเพรียงก็เป็นเหตุนำสุขมาให้ ดังนี้
ความพร้อมเพรียงอันนำสุขมาให้นั้น มีองค์ประกอบหลายประการ เช่น หมั่นประชุม , พร้อมเพรียงกันประชุม , ไม่ล้มล้างกฎเกณฑ์ที่ดี ไม่ตั้งกฎเกณฑ์ที่ไม่ดี , เคารพกัน , ไม่เอาเปรียบกัน เป็นต้น

สูกเรหิ สมคฺเคหิ พฺยคฺโฆ เอกายเน หโต สุกรทั้งหลายพร้อมเพรียงกัน ยังฆ่าเสือโคร่งได้ เพราะรวมใจเป็นหนึ่ง
พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย โดยทรงปรารภถึงความพ่ายแพ้การรบของพระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงใช้ให้ทหารไปสอดแนม เพื่อแอบฟังยุทธวิธีจากพระภิกษุ และทรงวางยุทธวิธีรบตามที่พวกภิกษุสนทนากัน แล้วทรงถึงความมีชัยชนะในที่สุด จากนั้นตรัสเล่า ตัจฉกสุกรชาดก “ว่าด้วยหมู่สุกร มีตัจฉกสุกรเป็นผู้นำ วางแผนหลอกล่อจนเสือโคร่งตกไปในหลุม แล้วช่วยกันใช้เขี้ยวรุมขวิดจนเสือโคร่งตาย ครั้งนั้น รุกขเทวดาโพธิสัตว์เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด จึงได้กล่าวภาษิตนี้
(จากหนังสือ พุทธภาษิต ฉบับเล่าเรื่องขยายความ สำนักพิมพ์รติธรรม)

ความสามัคคีนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งทุกยุคทุกสมัย ยิ่งสมัยนี้ ประชากรโลกมากขึ้น วิกฤติการณ์ต่าง ๆ รุมเร้า แค่ปัญหาน้ำน้อย ภัยแล้ง ปัญหาน้ำมาก น้ำท่วม ก็ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกันอย่างมากมาย
เมื่อต้องการความสุขและความสำเร็จ ซึ่งเป็นสิ่งปรารถนาของทุกคน ควรยิ่งมี่จะต้องมีความสามัคคีกัน ดังชาดกข้างต้น แม้แต่หมูก็ยังยังชนะเสือโคร่งได้ ด้วยความสามัคคี
ความสามัคคีกัน ความมีเมตตาต่อกัน การให้อภัยซึ่งกันและกัน จึงเป็นคุณธรรมที่สำคัญแก่เราทุกคน แม้ยามสุขหรือยามทุกข์ เมื่อหมู่คณะน้อมนำธรรมดังกล่าวมาปฏิบัติได้ดีแล้ว ความพร้อมเพรียงของหมู่คณะย่อมนำสุขมากให้

รังสรรค์ อินทร์จันทร์
ที่ปรึกษา งานพัฒนาบุคคลสู่ความเป็นเลิศ
24/05/59