ตัดสินจำคุกอดีตคณบดีแพทย์ศาสตร์ วชิรพยาบาล กรณีทุจริตนำทรัพย์สินราชการไปใช้ส่วนตัว เป็นกรณีศึกษาที่ข้าราชการพึงสังวรณ์ ด้านดร.อาทิตย์ สงสัยผิดได้ไง

ศาลอาญา นัดอ่านคำพิพากษา คดีที่อัยการยื่นฟ้องนายแพทย์ ชัยวัน เจริญโชคทวี อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาลฯ ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อทำจัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐ และเป็นเจ้าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

กรณีนี้เกิดเมื่อ นายแพทย์ชัยวัน ขณะดำรงตำแหน่งคณบดีฯ ได้นำรถยนต์และวัสดุครุภัณฑ์ อาทิ เครื่องเสียง เก้าอี้ ของทางราชการไปใช้ในงานสมรสของบุตรสาวที่บ้านพักส่วนตัว เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2554 ต่อมาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ได้ชี้มูลความผิดให้ดำเนินคดีกับนายแพทย์ชัยวัน เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2556 ซึ่งเบื้องต้นนายแพทย์ชัยวัน จำเลยให้การปฏิเสธ แต่ต่อมาได้ยื่นคำร้องให้การรับสารภาพในภายหลัง

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำของนายแพทย์ชัยวัน จำเลยถือว่าทุจริตในตำแหน่งหน้าที่ พิพากษาจำคุก 5 ปี ปรับ 20,000 บาท แต่ให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกเหลือ 2 ปี 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท และจำเลยได้สำนึกผิด ชดใช้ค่าเสียหายทันที ประกอบกับเป็นแพทย์ทำคุณประโยชน์ต่อสังคม และไม่เคยต้องโทษมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญา 2 ปี

กรณีนี้ดร. อาทิตย์ อุไรรัตน์ ตั้งคำถามผ่านเฟฃบุ๊คส่วนตัวว่า ผมไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเป็นความผิดอย่างไร นี่ระบบศรีทนนชัย หรือเปล่า แล้วคดี จำนำข้าว ล่ะ

การตั้งคำถามดังกล่าวทำงงให้กับผู้อ่านจำนวนมากว่า ดร.อาทิตย์ ไม่เข้าใจจริงๆหรือ ว่าการเอาทรัพย์สินราชการไปใช้ส่วนตัวไม่มีความผิด ขณะที่กรณีจำนำข้าว ไม่ใช่เรื่องของการนำไปใช้ส่วนตัวแต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการบริหารงานที่อาจไม่เข้าข่ายการทุจริตแต่เป็นการบกพร่องในหน้าที่

กรณีที่ศาลตัดสินเช่นนี้จะเป็นกรณีศึกษาให้พวกข้าราชการที่ชอบใช้ของหลวงไปในทางส่วนตัวได้พึงตระหนัก ขณะเดียวกันมีการตั้งคำถามต่อไปของชาวเน๊ตว่า แล้วทหารที่เอาไอ้เณรไปใช้ส่วนตัว ไปทำงานบ้าน ไปจ่ายตลาด ไปขับรถให้เมียนายทหาร แต่ กินเงินเดือนหลวง จะมีความผิดหรือไม่ ขอให้สังคมช่วยรวจสอบเอาผิด เพื่อรักษางบประมาณภาษีของปชช