กสทชเตือนลั่นช่อง3กรณีสรยุทธต้องกำกับดูแลให้ถึง ขณะเดียวกัน กสทชถูกประเมินผลงานในรอบ2ปี ทีวีดิจิทัล สำเร็จหรือล้มเหลว

คณะอนุกรรมการพิจารณาผังรายการและเนื้อหารายการ คณะกรรมการกิจการโทรกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะเชิญผู้บริหารจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 มาร่วมประชุมด้วย ตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ปี 2551 และ ประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์ และวิธีการอนุญาตการให้บริการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ ปี 2555 มาตรา 14 ที่มีเนื้อหากำหนดให้ ผู้ถือใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ ต้องดูแลเนื้อหา และผู้ผลิตรายการของทางสถานี อันสืบเนื่องจากกรณีของสรยุทธ สุทัศนะจินดา ตามข่าวที่เกิดขึ้นไปแล้ว
โดยมีนายไพศาล กุวลัยรัตน์ อนุกรรมฯทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุม
เพื่อที่จะพิจารณาช่อง3ในฐานะผู้ได้รับใบอนุญาต

ขณะเดียวกัน นายพิชัย  อุตมาภินันท์  กรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน กสทช. (กตป.) กล่าวถึงการทำงานของกสทช.ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แสดงถึงความล้มเหลวในการทำงานเกี่ยวกับทีวีดิจิทัล เนื่องจากกระบวนการทำงานของกสทช.ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แสดงถึงความล้มเหลวในการทำงานเกี่ยวกับทีวีดิจิทัล เนื่องจากกระบวนการทำงานขาดประสิทธิภาพ  ไร้ความรอบคอบ  ซึ่งต้นตอปัญหาอยู่ที่ความไม่พร้อม ทั้งในส่วนของปริมาณและคุณของโครงข่าย  นอกจากนี้ยังขาดประสิทธิภาพในการทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับกระบวนการเปลี่ยนถ่ายไปสู่ระบบดิจิทัลด้วย

สำหรับประเด็นปัญหาที่ทำให้กระบวนการทำงานของกสทช.ล้มเหลว จากการประเมินของ กตป. ประกอบด้วย
1.การติดตามการแก้ไขปัญหา อุปสรรคกระบวนการการเปลี่ยนผ่านสู่โทรทัศน์ดิจิทัล คือคุณภาพโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล สัญญาณไม่เป็นไปตามความคาดหวัง คูปองบางส่วนไม่ถึงมือประชาชน
2.การประชาสัมพันธ์เป็นเพียงการขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้ประชาชนไม่ได้รับทราบข้อมูลเพื่อนำไปสู่การรับชมและปฏิเสธที่จะนำกล่องไปใช้งานเพราะยุ่งยากเกินความจำเป็น
3.ยุติการออกอากาศสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ระบบแอนาล็อก ที่ไม่มีความชัดเจน และไม่มีการเตรียมความพร้อมด้านโครงข่าย
4.ขาดผู้ผลิตรายการที่มีคุณภาพและไม่มีมาตรฐานในการกำกับดูแล
และ 5.การดำเนินงานของกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) เห็นว่าเงินที่ได้จากการประมูลบริการธุรกิจควรจะนำมาใช้เพื่อสนับสนุน ส่งเสริม ด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม มากกว่าการจะนำไปใช้เพื่อประอบกิจการอื่น

ทางด้านปชชที่อยู่ต่างจว บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า กล่องทีวีดิจิทััลมูลค่ากล่องละ650นั้น จนบัดป่านนี้ที่บ้านตนยังไม่ได้รับเลย