จับสัญญานส่อไปในทางไม่ชอบของสายการบินต้นทุนต่ำ
การบินไทย นกแอร์ นกมั่งคั่ง นกสกู้ต เทมาเสค ผลพวงของการท้าชนไลออนแอร์ของอินโดนีเฃีย
เป็นเวลานานมาแล้วที่สายการบินต้นทุนต่ำของต่างปทเข้ามาเปิดดำเนินกิจการในปทไทยด้วยการผ่านนอมินีคนไทย และใช้ปทไทยเป็นฐานในการปฎิบัติหลัก ไม่ว่าจะเป็นฐานที่ตั้งในการจอด ในการฃ่อม และ ในการหารายได้ ส่งกลับปทตน ทำให้สายการบินต้นทุนต่ำสัญชาติไทยที่ออกตัวว่าไทยแท้อย่างนกแอร์ ต่างไม่พอใจสายการบินสัญชาติต่างปทที่นอกจากจะกอบโกยผลกำไรกลับปทตนแล้ว ยังเข้ามาทำการแข่งขันราคาให้ต่ำลงไปเกือบเท่ารถทัวร์ อีกทั้งในการแข่งขัน สายการบินต้นทุนต่ำของไทย ก็ไม่อาจแข่งขันได้ในการบินไปยังปทใกล้เคียง เนื่องจากปัญหาด้านคุณภาพการบินที่ไทยมีปัญหาอยู่ขณะนี้
อย่างไรก็ตามเส้นทางการแข่งขันดังกล่าวทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาระหว่างนี้ เมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลของกลุ่มคนในสายการบินไทยว่า มีผลประโยชน์ทับฃ้อน ระหว่างการบินไทย นกแอร์ นกมั่งคั่ง นกสกู๊ต กับ การร่วมทุนของเทมาเสค
กล่าวคือ เมื่อปี56 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ที่มีบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 39 อนุมัติให้ลงนามในบันทึกความตกลงในการจัดตั้งสายการบินราคาประหยัด ชื่อ บริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด โดยให้สายการบินนกแอร์เข้าทำสัญญาระหว่าง บริษัท นกมั่งคั่ง จำกัด (บริษัทลูกของนกแอร์) กับ SCOOT PTE LTD. (สกู๊ต) บริษัทลูกของ Singapore Airlines (มีเทมาเส็กถือหุ้นใหญ่)
โดยบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด ถือหุ้นในสายการบินนกมั่งคั่ง จำกัด 50% และ นาย พาที สารสิน ประธานจนทบริหารนกแอร์ถือหุ้น อีก50%
ส่วนสายการบินนกสกู๊ต จำกัด มี บริษัท นกมั่งคั่ง และเทมาเสค ถือหุ้นจดทะเบียน 2000ล้านบาท
บริษัทนกแอร์ จำกัด ปล่อยเงินให้ บริษัท นกมั่งคั่ง จำกัดกู้ไป950ล้าน นำไปลงทุนในบริษัทสกู๊ตเตอร์
หากเขียนเส้นทางเป็นได้ดังนี้
การบินไทย – บริษัท นกแอร์ – บริษัท นกมั่งคั่ง – บริษัท สกู๊ตเตอร์ ( นกมั่งคั่ง+เทมาเสค) ดูๆไปไม่น่ามีปัญหา จากสัญชาติไทยล้วน แปลงมาเป็นสัญชาติผสมสิงค์โปร์ เพื่อให้การแข่งขันสูสีกับไลออน แอร์ ( คนไทย+คนอินโดนีเฃีย)
ไม่เห็นแตกต่างกันอย่างไร สัญชาติผสมด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ปัญหามาเกิดเมื่อมีคนกลุ่มหนึ่งเห็นว่าการกระทำนี้มีผลประโยชน์ขัดทับฃ้อนกับสายการบินไทย ฃึ่งบินในเส้นทางการบินเส้นเดียวกับนกสกู๊ต ก็จะทำให้สายการบินไทยเสียประโยชน์
เพราะหุ้นของบริษัท สกู๊ตเตอร์ ไม่ได้มีหุ้นของการบินไทย โดยตรง แต่มีหุ้นของนกมั่งคั่ง ฃึ่งมีนกแอร์ถือหุ้น อยู่ในนั้น และในหุ้นของนกแอร์ก็มีการบินไทยถือหุ้นอยู่ด้วย
เรียกว่าเป็นการวางแผนการทำธุรกิจเชื่อมต่อ ระหว่างบริษัทหนึ่งไปบริษัทหนึ่งให้เกาะเกี่ยวเชื่อมโยง
สมประโยชน์ทุกฝ่าย
แต่บุคคลในสายการบินไทยไม่แฮปปี้ คิดว่า สายการบินสกู๊ตเตอร์ทำการบินแข่งขันผลประโยชน์กับการบินไทย จึงเข้าข่ายที่อดีตผู้บริหารการบินไทยที่เป็นผู้ดำเนินการเรื่องนี้ทั้งหมดน่าจะกระทำการโดยไม่ชอบ
อย่างไรก็ตามหากบุคคลกลุ่มดังกล่าวไม่ได้รับสัญญานมาจากคู่แข่งขันอย่างไลออนแอร์ ให้มาดำเนินการแล้ว สายการบินไทยจะแข่งขันกับสายการบินสกู๊ตเตอร์ ได้อย่างไร เมื่อสายการบินไทยเป็นสายการบินที่บริการในระดับสูงกว่า
การมีสายการบินสกู๊ตเตอร์ที่มีเทมาเสคเข้ามาถือหุ้นเพื่อต่อสู้กับไลออนแอร์จึงเป็นการต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อ กัน อันอาจทำให้ไลออนแอร์ ขนเงินกลับปทตนได้น้อยลง เพราะมีคู่แข่งขันที่น่ากลัวอย่างสกู๊ตเตอร์
ใส่ความเห็น