ปชช.ดีใจก.ต ฟันผู้พิพากษาทำผิดวินัยข่าวดัง วอนตรวจสอบคำพิพากษาแก้ปัญหา “ใช้ดุลพินิจ”ในมาตรา334ป.วิแพ่ง  

กรณีคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงผู้พิพากษาระดับรองอธิบดีจากกรณีข่าวดังสว.ทรงเอ ไปแล้ววานนี้นั้น

วีคลี่นิวส์ได้สอบถามความเห็นราษฎรอาวุโสรายหนึ่งให้ความเห็นว่า  ก.ต ไม่สามารถช่วยเหลือพวกเดียวกันได้เพราะเป็นข่าวใหญ่ และกรณียาเสพติดก็เป็นนโยบายของศาลในเรื่องการห้ามประกันตัว ไม่ใช่เรื่องผลงานก.ต เป็นที่ประจักษ์อย่างดีเลิศ 

เนื่องจากมีกรณีประชาชนร้องทุกข์ถึงก.ต มากมายที่ไม่เป็นข่าวดังแต่มีความทุกข์ต่อการใช้”ดุลพินิจตัดสินคดีที่รับไม่ได้”สะท้อนความรู้ความสามารถของผู้พิพากษาทั้งในคดีล้มละลายและคดีแพ่ง แต่ส่วนใหญ่แล้วจะได้รับคำตอบว่า ไม่พบการกระทำผิดเพราะเป็นเรื่องดุลพินิจที่ไม่อาจก้าวล่วงได้

ทั้งนี้การนำดุลพินิจนั้นไปวิเคราะห์ในทางกฎหมายและจริยธรรม ของผู้พิพากษาแล้วก็อาจจะมองได้ว่า มีความไม่ชอบเกิดขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่ในก.ตก็มักจะยึดหลัก”ดุลพินิจไม่อาจก้าวล่วง”กันได้ ทำให้ผู้พิพากษาได้รับการคุ้มครอง”ความไม่ชอบของคำตัดสิน”ให้เป็นที่แตะต้องไม่ได้ 

โดยเฉพาะศาลชั้นต้น ฃึ่งเป็นศาลที่มีบทบาทชี้เป็นชี้ตายเบื้องต้นที่ส่งผลได้ในทันที เช่น กรณีการใช้กฎหมายมาตรา334 ป.วิแพ่ง ฃึ่งเป็นการใช้กฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหนี้ ผู้ฃื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาด ที่กฎหมายเปิดช่อง ไม่จำต้องออกคำบังคับ  , ขับไล่ โดยไม่จำต้องติดประกาศ , ออกหมายจับโดยไม่ต้องไต่สวน เหล่านี้ล้วนเป็นขั้นตอนที่ไม่ชอบด้วยการออกกฎหมายและบังคับใช้กฎหมาย

และผู้พิพากษาก็จะมองประเด็นเดียวในการตัดสินคดีตามมาตรานี้ว่า ผู้ร้องคือผู้ฃื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาด ใช่หรือไม่  ถ้าใช่ ศาลจะมีคำสั่งให้คู่กรณีออกจากบ้านทรัพย์พิพาททันที ทั้งที่คู่กรณีค้านว่า ผู้ฃื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดรับเงินจากการขายทรัพย์นี้จากตนไปแล้ว ไม่มีสิทธิจะมาร้องขอให้ศาลมาออกหมายจับและไล่ตนออกจากบ้าน แต่ศาลไม่อาจรับฟัง แม้ผู้ฃื้อทรัพย์จะใช้สิทธิไม่สุจริตมาศาลก็ตาม ก็ไม่มีการตัดสินในประเด็นนี้ได้

ฃึ่งทำให้คู่ความต้องปฎิบัติตามคำสั่งศาลในทันที กรณีนี้เกิดขึ้นในศาลแพ่งรัชดา

ตนเห็นว่า ดุลพินิจของศาล ต้องได้รับการตรวจสอบได้อย่างเป็นธรรมต่อประชาชน 

การจะให้ประชาชนไปฟ้องร้องศาลทุจริตและประพฤติมิชอบแทนร้องก.ต ก็อาจจะถูกรุมแม้ไม่ต้องด้วยคดีหมิ่นประมาทผู้พิพากษาก็จะถูกข้อหาดูหมิ่นศาลแทน ทำให้ไม่มีประชาชนกล้าฟ้องผู้พิพากษา