วิกฤติศรัทธาของประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทยและก้าวไกลในการเลือกตั้งเมื่อวันที่14พฤษภาคม2566สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนทั้งประเทศเบื่อหน่ายกับการบริหารงานของรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้คะแนนเสียงถูกเทให้กับพรรคก้าวไกลไปเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร กวาดเรียบ 33เขต ขณะเวลาตีหนึ่ง นับผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการได้90% ไปแล้ว โดยคนดังทางการเมืองหลายคนตกม้าตายกันเป็นแถวๆ น่าชื่นชมว่าการเปลื่ยนประเทศไทยคงจะดีขึ้น โดยเฉพาะด้านกระบวนการยุติธรรม และระบบการทำงานของข้าราชการในยุครัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา ที่เสื่อมจนประชาชนเอือมระอา โดยเฉพาะเรื่องปัญหาการทุจริตต่างๆ ที่ควรจะต้องตรวจสอบเอาผิดที่มีการโกงกินกันโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย

โดยเฉพาะระบบศาลยุติธรรม ที่ประชาชนเห็นว่าใช้อำนาจและดุลพินิจ เกินขอบเขตจะต้องมีการตรวจสอบและฟ้องร้องดำเนินคดีต่อการทำหน้าที่ของผู้พิพากษาได้ ฃึ่งที่ผ่านมาอย่างในกรณีการวินิจฉัยคดีม.112 และกฎหมายนี้จำต้องมีการแก้ไขเพื่อมิให้นำไปใช้ในการกลั่นแกล้งทางการเมือง เหล่านี้เป็นเรื่องที่ทั้งก้าวไกลและเพื่อไทยต่างเห็นว่าเป็นปัญหากฎหมายที่ต้องแก้ไข สอดรับกับความเห็นของประชาชนที่เอือมระอาต่อการใช้อำนาจของรัฐไปในทางที่ผิด กลั่นแกล้งผู้เห็นต่างในทางการเมือง

จึงเป็นเรื่องที่ประชาชนสนับสนุนต่อผลการเลือกตั้งที่ออกมา แม้ขนาดรองประธานสภาก็ยังตกม้าไม่สามารถเข้าสภามาได้ในครั้งนี้

ประเทศไทยกำลังจะเปลื่ยนไป