ธอส.สว่างหลังเปลื่ยนตัวฉัตรชัย ศิริไล เป็น กฤษณ์ เสสะเวช 

พลันที่นาย ฉัตรชัย ศิริไล กก.ผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ชิงลาออกเพื่อไปเริ่มวาระใหม่ที่ธนาคารเกษตรและสหกรณ์ ทำให้ความสว่างไสวเกิดขึ้นในธนาคารเนื่องจากก่อนหน้าที่นาย ฉัตรชัย จะเข้ามาดำรงตำแหน่งครั้งที่สองนั้น สหภาพแรงงานธนาคารอาคารสงเคราะห์และลูกหนี้ธนาคารที่เห็นการบริหารของนาย ฉัตรชัย ศิริไล ต่างพากันยื่นหนังสือคัดค้านการแต่งตั้งถึงนาย อุตตมะ อดีตรมว.คลัง เพื่อขอให้ระงับการแต่งตั้ง แต่นาย อุตตมะ รีบลงนามแต่งตั้งก่อนลาออก ไม่กี่วัน

ทำให้นาย ฉัตรชัย กลับเข้ามารับตำแหน่งอีกครั้งได้เพียงสองปีครึ่งโดยจะครบวาระในปี2567 แต่กลับชิงลาออกอ้างไปสมัครคัดสรรเป็นผู้จัดการธนาคารเกษตรและสหกรณ์ และนาย อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ก็ได้ทิ้งทวนแต่งตั้งนาย ฉัตรชัย ศิริไล ดำรงตำแหน่ง ก่อนรัฐบาลหมดอายุ

ทำให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์สว่างไสว ปัญหาในธนาคารเกี่ยวกับเส้นสายและกระแสการใช้เงินจากการขายสลากออมทรัพย์เบาบางลง โดยคณะกรรมการธนาคารได้แต่งตั้งนายกฤษณ์ เสสะเวช เข้ารับตำแหน่งรักษาการแทนนาย ฉัตรชัย ศิริไล ฃึ่งถูกลูกค้าธนาคาร”จ่ายเงินฃื้อบ้านไม่มีโฉนดให้”แจ้งความดำเนินคดีข้อหา”ฉ้อโกง” เป็นข่าวในวีคลี่นิวส์มาโดยตลอด ทั้งที่มีคู่มือกำกับดูแลจริยธรรมจรรยาบรรณของธนาคารวางบรรทัดฐานในการปฎิบัติหน้าที่อยู่ก็ตาม

นายกฤษณ์ เสสะเวช เป็นนักบริหารทางการเงินที่มีความรู้ความสามารถในอดีตที่ผ่านมาหลายแห่ง เป็นนักบริหารที่มีคุณธรรมและเป็นผู้ที่มีความฃื่อตรง เป็นมืออาชีพ 

โดยไม่ต้องวิ่งหาตำแหน่งหรือประจบสอพลอเป็นมือเป็นเท้าให้พรรคการเมืองใด ที่สำคัญมีความเป็นคนดีที่รับฟังปัญหาและแก้ปัญหาโดยไม่เพิกเฉย หรือ เรียกร้องหาผลประโยชน์ 

หรือใช้เงินสร้างชื่อเสียง ทำให้ธอส.วันนี้เป็นที่พึ่งพิงของพนักงานธอส.และลูกค้าได้ 

ขณะเดียวกันเพื่อพิจารณาถึงตำแหน่งประธานคณะกรรมการธนาคารและประธานคณะกรรมการบริหารของธนาคารแห่งนี้รวมถึงกรรมการแต่ละคน ก็คาดว่าหากมีการเลือกตั้งได้รัฐบาลชุดใหม่ แล้วก็อาจมีการเปลื่ยนแปลงจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนต่อไป